Volvo บริษัทผลิตรถยนต์ของสวีเดนที่มีความเป็นเอกเทศในด้านแนวคิด แบรนด์ไวกิ้งมักจะทำสิ่งต่างๆ ในแบบฉบับของตัวเอง โดยเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีนับไม่ถ้วนในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์โลก ตั้งแต่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่ริเริ่มติดตั้งเข็มขัดนิรภัยในรถยนต์เป็นเจ้าแรกๆ ไปจนถึง run off road protection ระบบความปลอดภัยที่เตรียมความพร้อมของรถก่อนเกิดอุบัติเหตุ ปัจจุบัน Volvo ถือเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญที่สุดในบ้านเกิดเมืองนอนอย่างสวีเดนและกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย รวมถึงยังเข้าไปทำตลาดในประเทศจีน เมื่อไม่นานมานี้ Volvo ประกาศว่าจะผลิตเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าและยกเลิกสายการผลิตรถยนต์สันดาปภายในปี พ.ศ. 2569 ซึ่งเร็วกว่าเส้นตายของแบรนด์รถยนต์ยุโรปส่วนใหญ่ถึงสี่ปี ทุกวันนี้ บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำของยุโรป ทั้ง BMW และ Mercedes-Benz กำลังเปิดตัวยานยนต์ EV รุ่นที่ 2 หรือ 3 ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ วางอยู่บนแชสซีหรือแพลตฟอร์ม ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับมอเตอร์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ไม่ใช่แพลตฟอร์มแบบผสมที่ออกแบบให้ใช้งานได้ทั้งเครื่องยนต์หรือมอเตอร์+แบตเตอรี่ แต่ Volvo ยังคงใช้แพลตฟอร์ม CMA อายุ 5 ปี ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับทุกอย่าง ตั้งแต่เครื่องยนต์สันดาปภายในพร้อมระบบปลั๊กอิน ไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้แหล่งพลังงงานมาจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน นี่ดูเหมือนจะเป็นแต้มต่อที่สำคัญ ผลลัพธ์ที่ได้คือ C40 รถ Electric Crossover ที่ขับแล้วให้ความรู้สึกดี (มาก) นับเป็นความยืดหยุ่นของแพลตฟอร์ม CMA ที่เชื่อมโยงระบบขับเคลื่อนสองรูปแบบเข้าไว้ด้วยกันบนความหลากหลายของการใช้งาน



Volvo C40 Recharge Twin Motor รถยนต์ไฟฟ้าชื่อยาวรุ่นเล็กที่สุดของ Vovlo แม้ว่าแทบจะไม่มีความแตกต่างจากรถรุ่นพี่ แต่ C40 Recharge ถูกปรับให้เล็กกว่า XC40 Recharge นิดเดียวเท่านั้น ฝากระโปรงหลังแบบ Coupe Crossover ฝาครอบท้ายตัดเพื่อปรับปรุงให้รถดูมีสไตล์แบบรถครอสโอเวอร์คูเป้ ซึ่งถ้าพูดถึง Coupe SUV ที่กำลังมาแรงในตอนนี้ การเลือกซื้อ C40 แทน XC40 คุณจะสูญเสียความจุในการบรรทุก 8.5 ลูกบาศก์ฟุต และเนื้อที่ด้านหลังที่หายไป 2.4 นิ้ว ในทางกลับกัน คุณจะได้รับสไตล์ที่สดใหม่และโฉบเฉี่ยวทันสมัย พร้อมกับภาพลักษณ์ที่แสดงออกถึงบุคลิกใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ไวกิ้ง



Volvo C40 Recharge Twin มีราคา 2,790,000 บาท รวมฟีเจอร์ทั้งหมดจากสเปกพื้นฐาน ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า Twin Motor's พร้อมกล้อง 360 องศา อัตราเร่งระดับรถสปอร์ต 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 4.8 วินาที ความสะดวกของพื้นที่ใช้สอยที่อยู่ในเกณฑ์ดีเมื่อเทียบกับขนาดตัวถัง ระบบเสียงดีงามจากแบรนด์เครื่องเสียงอเมริกัน Harman Kardon และการตกแต่งภายในบุด้วยผ้าไมโครเทคที่มีความยั่งยืนด้านการรีไซเคิล ในตอนกลางคืน ภายในของมันประดับประดาด้วยแสงสีขาวนวลตา ประดับประดารอบห้องโดยสาร แผงตกแต่งแบบมีไฟส่องสว่างก็ทำให้ภายในของ C40 ดูดีกว่ารถยนต์ไฟฟ้าจีน สีตัวถังทั้งหมดที่มีให้เลือกนั้น สีฟ้าอมเทาคือโทนสีที่ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการ และ ทุกเฉดสีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม



ดูหน้าตาและทรงภายนอก สไตล์ของ C40 คล้ายเด็กที่มีใบหน้าอ่อนโยน ส่วนท้ายของหลังคาและไฟท้าย ที่มีดีไซน์เฉียบคม ทำให้รถรุ่นนี้มีความโดดเด่นในตลาดรถยนต์อเนกประสงค์พลังงานไฟฟ้าในปัจจุบัน แม้ว่ามันจะมีด้านหน้าที่คุ้นเคยของ XC40 ที่ถูกปรับโฉมใหม่ แต่แนวหลังคาด้านหลังแบบ fastback ที่ลาดเอียง เป็นสิ่งที่ทำให้ C40 มีความโดดเด่นที่สุด จากด้านข้างและด้านหลัง เสาท้ายที่เชื่อมต่อกับผืนหลังคาเฉียงเป็นมุมฉาก ให้สัมผัสการออกแบบค่อนข้างโดนใจ ส่วนนูนเล็กๆ ที่ด้านบนของกระโปรงท้ายรถและกระจกบานฝาท้าย ไฟท้าย LED สร้างความแตกต่างได้อย่างแท้จริง แม้ว่ากระจกบานฝาท้ายบานเล็ก จะส่งผลให้มุมมองด้านหลังผ่านกระจกมองหลังมีจุดบอดก็ตาม



ไฟหน้าทรงค้อนของเทพเจ้า Thor กระจังหน้าปิดทึบตามสไตล์ยานยนต์ไฟฟ้าที่ต้องการให้อากาศพลศาสตร์ของรถอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ไม่ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุด้วยความลู่ลมที่มีศักยภาพ ด้านหน้าไปจนถึงกระจกหลังที่ลาดเอียง C40 Recharge นั้นดูดีและมีความทันสมัย มันเป็นรถที่เรียบง่าย ห่างไกลจากความฉูดฉาด การออกแบบตกแต่งภายในแนวสแกนดิเนเวียเน้นความสบายและการมองเห็นเป็นหลักโดยทั่วไปแล้ว C40 Recharge Twin Motor ถูกออกแบบให้มีรูปทรงที่โดนใจคนรุ่นใหม่ และมันก็ทำได้จริงๆ ซะด้วย








Volvo จุ่มตัวถังรถทดสอบคันนี้ลงในสีที่เรียกกันว่า "ฟยอร์ดบลู" หรือชายฝั่งที่มีสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นเฉดสีเมทัลลิกโทนอ่อนที่น่ารัก ซึ่งทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการผจญภัย มิติตัวถัง มีขนาดความยาว 4,440 มิลลิเมตร กว้าง 1,873 มิลลิเมตร หรือ 1,910 มิลลิเมตรถ้าวัดจากขอบกระจกมองข้างทั้งสอง สูง 1,591 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,702 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหน้า 1,598 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหลัง 1,603 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 171 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2,185 กิโลกรัม งานออกแบบของ C40 ถือเป็น Volvo ยุคใหม่ที่มีความเปลี่ยนแปลงจากเดิมจนไม่เหลือเค้าโครงของรถสวีเดนในอดีต ใช้ไฟหน้าที่มีรูปทรงจำลองมาจากค้อนเทพเจ้าธอร์ ระบบไฟส่องสว่างของ Volvo รุ่นใหม่ใช้งานได้ดีในคืนที่มืดมิดและช่วยเพิ่มความปลอดภัยเมื่อขับตอนกลางคืน รูปแบบการดีไซน์ส่วนท้ายที่มีความโค้งเว้านี้ยังถูกนำไปใช้กับส่วนล่างของประตูหลัง ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้แก่ตัวรถด้านข้างได้เป็นอย่างดี ถือเป็นงานออกแบบที่โดนใจผู้คนอยู่ไม่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกับขนาดและรูปทรงของรถคู่แข่ง ล้อขนาด 19 นิ้วที่พอดีกับการเซตช่วงล่างของ C40 Twin Motor ห่อรัดด้วยยางสปอร์ต pirelli p zero ไซล์ 255/45R19 104V เจ้า C40 พลังไฟฟ้า ราคา 2.7 ล้านบาท ยังอยู่ในกลุ่มเดียวกับ Lexus UX300e Electric ราคา 3.4 ล้านบาท / BMW iX1 (ยังไม่ได้เปิดตัวในไทย) / Jaguar e pace ราคา 3.7 ล้านบาท / Audi Q4 Sportback e-tron ที่ไม่มีขายในไทย และ Mercedes EQA ที่ไม่มีขายในไทยเช่นเดียวกัน



ห้องโดยสารของ C40 Recharge เมื่อก้าวเข้าไปข้างใน คุณจะพบกับทุกอย่างที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อใช้งานอย่างเรียบง่าย การตกแต่งภายในของ C40 เน้นด้วยเฉดสีเข้ม ซึ่งยังคงเรียกว่าฟยอร์ดบลู พรมซีรูเลียนทอแน่น จับคู่กับเบาะสีดำหุ้มด้วยไมโครไฟเบอร์หนังกลับที่ทำให้เบาะดูแพงและนั่งสบาย กลไกปรับเบาะไฟฟ้าคู่หน้าก็ครอบคลุมสรีระของทั้งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า แดชบอร์ด คอนโซล จอกลาง และจอภาพมาตรวัด เหมือนกับการตกแต่งภายในของ XC40 ไม่ว่าจะเป็นช่องแอร์ จอมอนิเตอร์กลาง แดชบอร์ด ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่ออกแบบได้อย่างชาญฉลาด วัสดุสมัยใหม่มักจะดูยอดเยี่ยมและรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ก็ทำออกมาได้ดีจริง การที่ไม่มีหนังแท้ 100 เปอร์เซ็นต์โดยใช้การผสมผสานวัสดุที่ห่อหุ่มตัวเบาะ เป็นโบนัสที่ยอดเยี่ยมในด้านการอนุรักษ์และการใช้งานจริง ไมโครไฟเบอร์ที่หุ้มเบาะ อย่างที่บอกว่าให้สัมผัสดูแพงคล้ายกับเบาะหนังกลับ Alcantara การเย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีขาวสื่อให้เห็นถึงรูปแบบของรถสปอร์ตที่แบรนด์ไวกิ้งพยายามนำเสนอให้กับลูกค้า แม้แต่คุณอาที่เคยใช้ Vovlo 960 ก็ยังอดชื่นชมไม่ได้กับงานตกแต่งภายในของรถรุ่นหลาน


หลังคากระจก Panoramic เคลือบสารป้องกันการแพร่ความร้อน ปิดโซนผืนหลังคาเกือบจะทั้งหมด ทำให้การขับในสวีเดนประเทศที่อยู่ในเขตเหนือที่มีแสงอาทิตย์ไม่มาก ให้มีแสงสว่างมากพอที่จะสร้างความอบอุ่นในวันที่แดดจัด แต่พอมาขับใช้งานในไทย ถ้าไม่ติดฟิมล์กรองแสงเข็มๆ ระบบปรับอากาศก็จะทำงานอย่างหนัก ในวันที่ร้อนจัดของเดือนเมษายน หลังคากระจกของมันไม่มีม่านบังแสง เปิดออกไม่ได้ แค่ทำให้ห้องโดยสารโปร่งและสวยงาม ชิ้นงานตกแต่งภายในใช้โทนสีที่ช่วยลดแสงสะท้อน เมื่อขับตอนกลางคืน แผงประตูและแผงหน้าปัด จะเปล่งแสงเรืองสีขาวนวลตา เป็นเอฟเฟกต์ที่ไม่ฉูดฉาดแต่น่าจดจำไม่น้อยไปกว่าไฟ LED ที่ใส่สีทางเทคนิคมากกว่า 60 เฉดสีที่ใช้กันทั่วไปในเครื่องจักรยุคใหม่อันหรูหราของเยอรมัน







หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ในแนวตั้งการใช้ระบบจัดเก็บสัมภาระแบบใหม่ หรือ Ingenious Storage Solutions ทั่วทั้งห้องโดยสาร สามารถเก็บของกระจุกกระจิกชิ้นเล็กๆ ไปจนถึงกระเป๋าใบโตในพื้นที่เก็บสัมภาระส่วนประตูท้าย เป็นการสร้างระบบจัดเก็บที่ชาญฉลาด ใช้งานได้จริงและสวยงาม มันมีแม้กระทั่งที่แขวนกระเป๋าของคุณสุภาพสตรี และที่เก็บโน้ตบุ๊ก นอกเหนือไปจากสมรรถนะและความปลอดภัยที่ให้มาครบๆ


Volvo ให้ความสำคัญอย่างมากกับการผลิตยานยนต์ที่มีช่องเก็บสัมภาระที่ออกแบบมาเพื่อรองรับสำหรับสิ่งของต่างๆ โดยด้านล่างที่พักแขนติดตั้งช่องเก็บของขนาดใหญ่ซึ่งมีที่รองรับขยะและสามารถถอดออกได้ ซึ่งจะช่วยขจัดความสกปรกรกให้หมดไปจากรถ พื้นที่ใต้เบาะนั่งยังมีช่องเก็บของสำหรับสิ่งของชิ้นเล็กๆ มีพื้นที่วางสมาร์ทโฟนในขณะที่กำลังชาร์จแบตเตอรี่ ที่วางแก้วและ USB Type C พื้นที่ส่วนล่างภายในห้องโดยสารถูกจัดสรรเป็นช่องเก็บของทั้งหมด สามารถเก็บได้ทั้งขวดเครื่องดื่มขนาดใหญ่ แล็บท็อป หรือกระเป๋าใบเล็ก








เบาะแบบสปอร์ตที่นั่งสบาย เบาะของ Volvo ขึ้นชื่อในด้านความนุ่มนิ่มนั่งขับได้ทั้งวัน เสาหน้าออกแบบให้ไม่กินพื้นที่ซึ่งอาจไปบดบังมุมมองด้านหน้า เบาะหนังสีดำเย็บด้วยด้ายสีขาว เบาะคู่หน้าปรับระดับความสูง-ต่ำ และระยะใกล้-ไกลด้วยไฟฟ้า แดชบอร์ดทรงเหลี่ยมเข้ากับรูปแบบของตัวถัง Volvo พยายามลดปุ่มและสวิตช์เพื่อลดภารกรรมและขั้นตอนของการใช้งาน ทุกสิ่งทุกอย่างจึงไปรวมอยู่ในจอภาพมอนิเตอร์กลางระบบสัมผัสที่ทำงานคล้ายกับ i-PAD ควบรวมระบบต่างๆ ที่สามารถปรับตั้งค่าได้ เช่น การเลือกดูแผนที่นำทาง ปรับแต่งเครื่องเสียง ระบบปรับอากาศ มอนิเตอร์ของระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง และอื่นๆ อีกเพียบ Volvo C40 Recharge ยังคงใช้แดชบอร์ดแบบโฟมหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ที่กลายเป็นฉนวนป้องกันเสียงแปลกปลอมจากภายนอก ส่วนซุ้มคันเกียร์มีขนาดกะทัดรัดเหมือนกับเรือนร่างที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร เบาะปรับไฟฟ้ายังมีหน่วยความจำสองระดับติดตั้งมาให้เพื่อความสะดวกในการใช้งาน รวมไปถึงช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังที่ใช้งานได้ดีในวันที่มีอากาศร้อนจัด บอกตามตรงว่า Panoramic Roof ที่ไม่มีม่านบังแดดนั้น ตอนขับทดสอบช่วงเดือนเมษายนที่มีอุณหภูมิภายนอกเฉียดๆ 40 องศา แอร์เอาอยู่ก็จริงแต่สิ้นเปลืองพลังงานเอาเรื่องเลยทีเดียว





พวงมาลัยไฟฟ้าทรงสามก้านของ C40 มีขนาดเล็กกว่าพวงมาลัยของ XC60 T8 AWD R-Design ก้านวงติดตั้งสวิตช์มัลติฟังก์ชันใช้ปรับตั้งเครื่องเสียงและระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control ปุ่มรับหรือวางสายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ปุ่มสั่งงานด้วยเสียง


เทคโนโลยีเครื่องเสียงติดรถยนต์ขั้นสูงใน C40 ระบบเสียงจาก Harman Kardon มอบประสบการณ์ทางดนตรีที่เต็มอารมณ์และทรงพลัง พร้อมรายละเอียดเสียงที่ครบถ้วน โดยเฉพาะเสียงเบสรอบทิศทางที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างดี การติดตั้งระบบเครื่องเสียงที่แยกออกจากแผงประตู ช่วยเพิ่มพื้นที่ของช่องเก็บของบานประตู XC40 ให้กว้างขึ้น ค่าเรโซแนนซ์ในพื้นที่ปิดที่ยอดเยี่ยมของ Haman Kardon ใน Volvo C40 คืองานวิศวกรรมที่มีความก้าวล้ำ เสียงในพื้นที่ปิด โดยเฉพาะในห้องโดยสารของรถยนต์ มีพฤติกรรมแตกต่างจากในพื้นที่โล่ง เพราะในพื้นที่ปิด เสียงจากแหล่งกำเนิด จะรวมเข้ากับเสียงสะท้อนจากพื้นผิว เช่น แดชบอร์ด แผงประตู แผงฝาท้าย ก้านกระจกมองหลัง พื้น และเพดานของรถ ระดับความดันเสียง ความถี่เรโซแนนซ์ จะแปรผันตามมิติของพื้นที่ปิดล้อม ถ้างานประกอบไม่หนาแน่น หรือยึดไม่ดี ชิ้นส่วนพวกนี้จะกระพือตามพลังขับของซัฟวูฟเฟอร์ VolvoCar จัดการกับจุดนี้ได้ดีมาก
ห้องโดยสารถยนต์เป็นพื้นที่ปิด เปรียบเสมือนภาชนะบรรจุอากาศ ด้วยเหตุนี้จึงเกิดเรโซแนนซ์ขึ้นได้ ทำให้ความถี่ในบางพื้นที่ ให้พลังงานสูง และต่ำได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งการกระจายพลังงานที่ซับซ้อนนี้ มีอยู่ทั่วพื้นที่ การจัดวางลำโพงและคำนวณความถี่ที่ส่งผลกระทบต่อชิ้นส่วนต่างๆ ได้รับการปรับตั้งมาเป็นอย่างดีใน C40


โดยปกติเรามักใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในพื้นที่ปิด ดังนั้น การรับฟังเพลง จึงถูกควบคุมโดย ค่าเรโซแนนซ์เหล่านี้ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม เรโซแนนซ์ของห้องโดยสาร จะส่งผลต่อการได้ยินเสมอ กำลังขับ 660 วัตต์ ที่สร้างโดยเพาเวอร์แอมป์ยูนิต 12 แชนแนล ระบบเสียงของ C40 มีกำลังสำรองค่อนข้างมาก เพื่อให้ขับเสียงได้ดี ผ่านการตกแต่งภายในที่เรียบง่าย ระบบเสียง Harman Kardon มีส่วนเพิ่มเติมของช่วงไดนามิกและช่วยให้สามารถรับฟังเสียงในความถี่ต่ำสุดได้โดยไม่มีเอฟเฟกต์ หรือผลกระทบ ระบบเสียงใน Volvo แสดงให้เห็นถึงความสมดุลของโทนเสียงและประสิทธิภาพเสียงเบส ซาว์ดเอนจิเนียร์พัฒนาและใช้ประโยชน์จากความรู้ความชำนาญด้านระบบเสียงติดรถยนต์ของแบรนด์ Harman ซึ่งรวมถึง Dirac Unison เทคโนโลยี การปรับแต่งลำโพงและการจัดวางอย่างลงตัว เพื่อให้ได้การกระจายของเสียงที่สม่ำเสมอ พร้อมการตอบสนองแรงกระตุ้นที่ใกล้เคียงกับอุดมคติของการรับฟัง การสร้างเสียงเบส ได้รับประโยชน์จาก Dirac Unison ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นในสวีเดน ทำงานร่วมกับช่องสัญญาณเสมือนจริงที่ลำโพงหลายตัวโต้ตอบกันตามรูปแบบที่ซับซ้อน




ใน Volvo C40 Recharge นั้น นักพัฒนาได้นำแนวคิดอาร์เรย์ซับวูฟเฟอร์ที่ไม่ธรรมดาและมีประสิทธิภาพสูงมาใช้ ดังที่ทราบกันดีว่า Double Bass Array (DBA) เป็นที่นิยมในชุดเครื่องเสียงโฮมเธียเตอร์ที่ซับซ้อน วูฟเฟอร์ขนาด 8 นิ้ว 1 ใน 2 ตัว อยู่ในตำแหน่งที่วางเท้าของผู้โดยสาร และอีกตัวอยู่ที่ด้านหลังขวาที่ผนังด้านข้างของห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ การสร้างเสียงเบสที่ทุ้มลึกเป็นพิเศษ สามารถทำได้ผ่านการจัดเรียงของวูฟเฟอร์สองตัวแบบ out-of-phase-plus-delay ซึ่งอยู่ห่างจากกันและกันมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วยรูปแบบแนวทแยง ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่เงียบ การชดเชยเสียงรบกวนของรถยนต์ (VNC) ซึ่งเป็นความถี่ที่สามารถปรับได้ เสียงเบสที่หนักแน่น ด้วยระบบเสียงระดับพรีเมียมของ Harman/Kardon ใน C40 เมื่อลองรับฟังอย่างตั้งใจก็จะพบว่า เหนือชั้นกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องเสียงใน XC40 รุ่นเครื่องยนต์สันดาป วงจร Quantum Logic Surround (QLS) 7.1 แชนเนล การเลือก QLS นั้นขึ้นอยู่กับการบันทึกไฟล์เพลง ค่าที่ตั้งไว้ล่วงหน้าช่วยให้ผู้โดยสารหรือคนขับสามารถปรับการกระจายเสียงของระบบไฮไฟในรถยนต์ ไปยังที่นั่งคนขับ เบาะหลัง หรือทุกที่นั่ง ลำโพงเสียงกลาง อยู่ในตำแหน่งที่สูง มีส่วนสำคัญต่อการรับฟังที่น่าประทับใจ ลำโพงเหล่านี้ ตั้งอยู่ที่ด้านบนสุด และอยู่ด้านหน้าประตูมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คล้ายกับตำแหน่งทวิตเตอร์ของระบบเสียง Bowers & Wilkins ใน BMW iX ใน C40 ทวิตเตอร์ซอฟต์โดมขนาด 0.75 นิ้ว จะอยู่เยื้องไปทางด้านล่างของเสา A เล็กน้อย การได้รู้เกี่ยวกับการรับฟังและปรับตั้งของนักออกแบบภายในและผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงที่อยู่เบื้องหลัง เป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญของคุณภาพเสียงภายในห้องโดยสาร C40



C40 Recharge มีกำลัง 300 กิโลวัตต์ หรือ 408 แรงม้า ที่ 4,350 - 13,900 รอบต่อนาที จาก มอเตอร์ขับเคลื่อนสองตำแหน่งที่วางอยู่บนเพลาขับหน้าและหลัง นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับการสปรินต์จาก 0 ไปถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ 4.8 วินาที อัตราเร่งของมันเทียบเท่ากับ Nissan Z รุ่นใหม่ และเร็วกว่า Porsche Cayman รุ่นมาตรฐานอย่างชัดเจน ส่วนความเร็วสูงสุดทะยานไปถึง 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 75 kWh ระบบชาร์จไฟ DC - 50 kW (Charging power) รับเต็มเหนี่ยวที่ตู้ชาร์จระดับ 150 kW (Charging power) โดยใช้เวลาชาร์จไฟจาก 37% ไปถึง 92% ในเวลา 28 นาที สำหรับการทำระยะทางเมื่อชาร์จไฟมาเต็ม Volvo เคลมมา 580 กิโลเมตร เมื่อลองขับทดสอบด้วยการใช้คันเร่งอย่างระมัดระวังไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง C40 ขับได้ไกลประมาณ 400 กิโลเมตร และเมื่อใช้คันเร่งอย่างต่อเนื่องเพื่อทำความเร็ว โดยจัดหนักด้วยความเร็วในย่าน 120-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บางจังหวะเล่นซะเต็มข้อ 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อเร่งแซง ระยะทางจะหดลงเหลือประมาณ 290-310 กิโลเมตร



ระบบรองรับ ที่มาของความสบายตัว ด้านหน้าติดตั้งช่วงล่างแบบ MacPherson Suspension, Coil Springs, Hydraulic Shock Absorbers, Stabilizer Bar ส่วนด้านหลังใช้ช่วงล่างพิมพ์นิยม multi-link Suspension with Coil Springs, Hydraulic Shock Absorbers, Stabilizer Bar ระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้าอัตราทดน้ำหนักแปรผันไปตามความเร็ว Electrical Power Assisted Rack สำหรับระบบเบรกนั้นขัดใจวัยรุ่นอยู่เหมือนกัน เพราะมีอัตราเร่งเร็วจี๋ 0-100 ใน 4.8 วินาที ควรใส่เบรกหน้า 4 หรือ 6 พอตมาให้ได้แล้ว เบรกเดิมๆ เอาอยู่ก็จริงแต่ถ้าพุ่งมายังกับดาวหาง ควรกะระยะเผื่อเหลือเผื่อขาดให้ดีๆ จานเบรกหน้า 345 มิลลิเมตร หลัง 340 มิลลิเมตร นั้นโอเคแล้ว ประสิทธิภาพของการเบรกจาก 100 กิโลเมตร ลงมาเหลือ 0 ใช้ระยะเบรกไป 36 เมตร จะสั้นกว่านี้แน่นอน ถ้าใช้คาลิปเปอร์หน้าแบบ 6 พอต



แรงบิดเป็นสิ่งเสพติดของคนที่มีอาชีพจับความรู้สึกหลังการขับรถทดสอบแล้วมาเล่าให้ฟังในรูปแบบของตัวอักษรที่น่าจะมีความละเอียดมากกว่าคลิปวิดีโอที่กำลังนิยมทำกันอยู่ในขณะนี้ ผมไม่สามารถต้านทานการหลอกล่อของเจ้า C40 ที่พยายามยั่วให้เหยียบคันเร่ง ด้วยการออกตัวจากจุดหยุดนิ่งแบบเต็มคันเร่งได้เลย การเร่งแซงรถช้า รวมถึงการทำควาามเร็วบนไฮเวย์ และฟิลลิ่งของแรงดึงหนักหน่วงที่ C40 Recharge Twin พุ่งทะยานลิ่วๆ ไปข้างหน้านั้น ทำให้ผมรู้สึกประทับใจ พลังแรงบิดของมอเตอร์อย่างเหลือ ยาง P Zero ให้การยึดเกาะที่ดี แต่นี่คือ Crossover ไม่ใช่รถสปอร์ต การควบคุมนั้นดึงดูดนักขับที่ชอบขับเร็ว C40 เป็นยานพาหนะไฟฟ้าที่ขับสนุกมากกว่าที่คิดเอาไว้ตั้งแต่แรก การแล่นผ่านถนนที่คดเคี้ยวโดยไม่ต้องแตะเบรกด้วยฟังก์ชัน one paddle เป็นเรื่องน่าตื่นเต้น ที่สำคัญก็คือ คุณภาพการขับขี่ที่ดี C40 Recharge นุ่มนวลกว่า Tesla Model Y มีล้อและยางขนาดพอดิบพอดีไม่ใหญ่เกินไป แน่นอนว่ามันเงียบมากๆ และให้ความสงบสุขเมื่อขับช้าๆ ตามแบบฉบับของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีการออกแบบมาเป็นอย่างดีเท่านั้นที่จะทำได้ การทดสอบเปิด-ปิดประตูค่อนข้างล้าสมัยและเป็นวิธีโบราณในการพิจารณาคุณภาพงานประกอบและความแน่นหนาของรถ การปิดประตูทั้งสี่บานใน C40 นั้น เหมือนคุณกำลังปิดประตูห้องนิรภัย เมื่อลองนั่งที่เบาะหลัง คุณอาจรู้สึกว่าหลังคาของมันอยู่ใกล้กับศีรษะมากเกินไป แนวหลังคาแบบคูเป้นั้นไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับที่นั่งด้านหลัง แต่ผู้ใหญ่และเด็กที่ตัวเตี้ยจะไม่บ่นเมื่อได้นั่งลงบนเบาะหลังที่สบายใช้ได้



Volvo C40 ใช้แบตเตอรี่แบบ NCM ซึ่งดีกว่า NMC ไปอีกขั้น กล่าวคือ เวลาแบตเหลือน้อย ระยะทางที่ใช้ได้ก็ยังแม่นยำกว่า มีความคลาดเคลื่อนน้อยกว่า ว่ากันว่า สามารถวิ่งได้จนไฟหมดเกลี้ยงเลยทีเดียว (แต่ผมไม่แนะนำให้วิ่งจนหมด) สำหรับการกินพลังงานของ C40 recharge Twin จากการขับทดสอบ ช่วงออกตัวไปจนถึงความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การใช้พลังงานขึ้นไปถึงราวๆ 60 kWh/100 km และลดลงมาอยู่ที่ 25 - 30 kWh/ 100 km ทั้งนี้ จากหน้าจอของ driving assistant ของ volvo ได้แสดงให้เห็นว่า พลังงานบางส่วนใช้ไปกับ crimate control (อุณหภูมิภายในห้องโดยสาร) จะเห็นว่าอุณหภูมิภายนอกที่สูงถึง 38-40 องศามีผลอย่างมากกับการกินพลังงานของรถ และด้วยหลังคาของรถที่เป็นกระจก ส่งผลโดยตรงกับอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร แม้ Volvo จะแจ้งไว้ว่ามีการเคลือบกระจกหลังคาเพื่อป้องกันรังสียูวีก็ตาม



ช่วงเย็นที่อุณหภูมิลงมาราวๆที่ 31 องศาฯ และมีการระบายความร้อนที่ดี การใช้พลังงานในการขับเคลื่อนลงมาที่ 15-20 kWh/100 km ที่ความเร็วคงที่ 90-100 km/h ในช่วงกลางคืนที่อุณหภูมิภายนอกอยู่ประมาณ 29-30 องศา วิ่งกลับมาที่ความเร็วประมาณ 100-110 การกินพลังงานอยู่ที่ 20-22 kWh/100 km ซึ่งถือว่าโอเคมากสำหรับรถ performance Twin motor สำหรับระบบอินโฟเทนเมนต์ของ Volvo C40 ต้องมีการอัปเดตบ่อยครั้ง เพื่อทำให้ระบบนำทาง Google Maps ได้รับการอัปเดตของใหม่อยู่เสมอ ระบบนำทางจะแจ้งสภาพการจราจรข้างหน้าแบบเรียลไทม์ ไปจนถึงการระบุว่ามีจุดชาร์จไฟฟ้าที่ไหน ไกล ใกล้แค่ไหน (หรือไม่มี) แอปส่วนใหญ่ที่คุณชื่นชอบ สามารถดาวน์โหลดลงในรถได้เลย เพลย์ลิสต์ Spotify ไปยังเครื่องเสียง Harmon Kardon ที่ดังกระหึ่ม ผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth เครื่องเสียงของมันนั้นดีงามมากจนแทบไม่อยากลงจากรถ



C40 ยึดเกาะถนนได้ดี ในย่านความเร็วที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันทิ้งโหมดขับเคลื่อนทั้งหมดที่มีอยู่ในรถไฟฟ้าจีน แล้วทำตัวแบบธรรมดาสามัญ นี่คือรถยนต์ไฟฟ้าที่บังคับให้คุณเข้าสู่วิถีชีวิตที่สงบขึ้นโดยรู้เท่าทันการขับใช้งานของมัน ตัวเลือกเดียวแบบไดนามิกคือ one Paddle ซึ่งผมลองใช้แล้วไม่ชอบ ก็เลยยกเลิกฟังก์ชันนั้นไป แล้วหันมาเพิ่มความระวังขณะทำความเร็ว การเปิดใช้งานโหมดการบังคับเลี้ยวที่กระชับขึ้นทำให้พวงมาลัยตอบสนองได้ดี (ปกติก็ดีอยู่แล้ว) ในย่านความเร็วต่ำ พวงมาลัยไฟฟ้าของมันเบามือราวกับปราศจากน้ำหนักที่คอยหน่วง ทำให้การเข้าออกหรือกลับลำในที่คับแคบมีความคล่องและสะดวกสบาย ขับเร็วขึ้นแค่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พวงมาลัยก็ยังเบาอยู่ดี จนกว่าความเร็วจะทะยานผ่าน 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การหน่วงน้ำหนักจะเริ่มชัดเจนขึ้น



การใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่แต่ละเพลา เพื่อให้มีกำลังมหาศาลถึง 300kW หรือ 408 แรงม้า และ 660 นิวตันเมตร พร้อมด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ มวลของแรงบิด ไม่ว่าจะเป็นแรงดึงแบบฉับพลันทันที ผ่านยาง P Zero การส่งกำลังถูกกำหนดด้วยความแข็งแกร่งของแชสซีที่แปลงร่างเป็นความดุร้ายของรถ C40 น่าตื่นเต้นอย่างที่สุดเมื่อออกตัวในแนวเส้นตรง ในขณะที่การปรับแต่งคันเร่งที่ยอดเยี่ยมทำให้การส่งกำลังนั้นง่ายต่อการควบคุมเมื่อออกจากโค้ง แค่ระวังระยะเบรกและอย่าลืมว่าแม้จะตัวเล็ก แต่มันก็มีน้ำหนักมากถึง 2.1 ตัน การเบรกแบบฉับพลันทันที หรือใช้เบรกฉุกเฉิน ต้องมีระยะห่างพอสมควรจากรถที่อยู่ข้างหน้าเมื่อเข้าโค้ง ปฏิเสธไม่ได้ว่าบางครั้งการขับเข้าโค้งเร็วๆ ก็รู้สึกได้ถึงมวลมหาศาลหนัก 2154 กก. แม้ว่าจุดศูนย์ถ่วงจะต่ำ ด้วยชุดแบตเตอรี่ที่ติดตั้งบนพื้น ซึ่งเก็บพลังงานได้ 75kWh เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อ Twin Motor น้ำหนักเพิ่มขึ้นอีก 153 กิโลกรัม จาก C40 รุ่นมอเตอร์เดี่ยวที่ Volvo ไม่ได้เอาเข้ามาขาย อย่างไรก็ตาม ด้วยการตอบสนองของพวงมาลัย เบรก และความรู้สึกของคันเร่ง ทำให้ C40 เป็นรถไฟฟ้าที่มีการขับดีงาม น้ำหนักเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความพยายามในการทำระยะทางด้วยไฟฟ้า (แบตเตอรี่อย่างหนัก) ช่วงล่างช่วยให้รู้สึกสบายอย่างเหลือเชื่อบนพื้นผิวถนนทุกประเภท คุณภาพการขับขี่ยอดเยี่ยม เพื่อนร่วมแพลตฟอร์มของมันอย่าง Polestar 2 Performance Pack อาจมีความสามารถด้านไดนามิกมากกว่า แต่ C40 นั้นง่ายกว่าสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน




ผมได้น้องวอมและน้องแนท จากช่องวอมแนทในยูทูบ มาคอยช่วยเหลือเรื่องของการชาร์จพลังงาน เนื่องจากผมไม่ได้เอาโทรศัพท์มาเป็นใหญ่ในชีวิต เมื่อคิดจะเอามือถือไปเชื่อมต่อกับตู้ชาร์จ iPhone 7 ของผมจึงเหมือนกับสากกะเบือ แอโรไดนามิกที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นทำให้ผมรู้สึกว่า C40 เข้าโค้งได้ดีกว่า XC40 อันที่จริง มันให้ความรู้สึกที่แน่วแน่มากกว่า XC40 การใช้พลังงานและขอบเขตการใช้งานจริง หลังจากขับรถคันนี้ไป 605 กิโลเมตรในหนึ่งสัปดาห์ การใช้พลังงานอยู่ที่ 21.6kWh/100 กม. หลังจากขับทั้งในเมือง ทางหลวง และชนบทที่สวยงามของอุทยานสามร้อยยอด Volvo C40 แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของระบบอากาศพลศาสตร์หรือแอโรไดนามิก ที่อัตราการสิ้นเปลืองพลังงาน 21.6kWh/100 กิโลเมตร ใน C40 Twin Motor ระยะทางในโลกแห่งความเป็นจริงอยู่ที่ 347 กม. จาก 75kWh ของพลังงานไฟฟ้าในแบตเตอรี่ลิเธียม หมายความว่ามันไม่ได้ใกล้เคียงกับที่เคลม WLTP ถึง 420 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม Volvo ตระหนักเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากในเว็บไซต์ อ้างถึงการใช้พลังงานที่ 21kWh/100 กิโลเมตร ซึ่งแสดงให้เห็นระดับความโปร่งใสที่น่าประทับใจ นอกจากนี้ ระยะทาง 347 กม. ยังเป็นระยะทางที่ใช้งานด้วยสปีดความเร็วที่หลากหลาย การชาร์จแบบเร็วจำกัดไว้ที่ 150kW ขาไป ต้องแวะชาร์จไฟที่ PEA ชะอำ ส่วนขากลับก็แวะเติมไฟอีกครั้งตอนขับเข้าไปใกล้กับอำเภอท่ายาง ด้วยตู้ชาร์จบ้าพลังของ Elex by Egat โดยใช้เวลาชาร์จครั้งละ 25-30 นาที อัดไฟจาก 38% ไปจนถึง 92% ด้วยระยะเวลาใกล้เคียง 30 นาที





C40 Recharge Twin เป็นรถที่มีระบบความปลอดภัยรกรุงรังแต่ใช้งานได้จริงและทำให้การขับรถบนถนนในทุกวันนี้มีความปลอดภัยเพิ่มขึ้น มันมีช่วงล่างที่นุ่มนวล แรงพุ่งทะยานจากมอเตอร์คู่นั้นสุดยอด และขับขี่ได้อย่างสะดวกสบายง่ายดาย ไม่สร้างความเครียดเมื่อขับทางไกลยกเว้นตอนแบตเตอรี่มีไฟเหลือไม่มาก แถมเรือนร่างยังหล่อเหลาเข้าที ราคากับประสิทธิภาพที่โดดเด่น เมื่อเทียบกับสิ่งที่คุณจะได้รับ ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว รถ Volvo ยุคใหม่โดยเฉพาะพวกตัวเล็กพลังไฟฟ้านั้นขับได้ดีขึ้นมาก จนทำให้ผมกลับมาหลงรักแบรนด์ไวกิ้งอีกครั้ง ด้วยแนวคิดการไม่ปล่อยมลพิษ และวิธีการผลิตรถยนต์บนงานวิศวกรรมขั้นสูงของ Volvo น่าจะช่วยสร้างความพึงพอใจให้กับเจ้าของรถได้ไม่มากก็น้อยละครับ.
Volvo C40 Recharge Twin 2,790,000 บาท
Engines E400V6
Type Electric motors
Configuration AWD
Max output, 300 kw (2*150kW) (408 hp (2*204)) / 4350 - 13900 rpm
Max torque, 660 Nm
Battery type Lithium-ion battery
Battery content, total amount of energy 78 kWh
Battery content, total amount of energy (Usable) 75 kWh
BATTERY CHARGING TIME * - DC - 50 kW (Charging power) (minutes) / 150 kW (Charging power) (minutes) ¹ 68 / 28
BATTERY CHARGING TIME * - AC 3-phase, 6 A (Charging power) (hours) / 10 A (Charging power) (hours) / 16 A (Charging power) (hours) ¹ 22 / 14 / 8
BATTERY CHARGING TIME * - AC 1-phase (200-240V) - 6 A (Charging power) (hours) / 10 A (Charging power) (hours) / 16 A (Charging power) (hours) / 32 A (Charging power) (hours) / 48 A (Charging power) (hours) ¹ 72 / 40 / 24 / 12 / 8
Electrical motor max power (kW) 300 kW (2*150 kW)
Electrical motor max torque (Nm) 660 Nm (2*330 Nm)
PERFORMANCE
Performance Shift-by-wire
Acceleration, 0-100 km/h 4,7 sec
Top speed 180 km/h
Electric Range [EAER] WLTP, City.
580 km
Electric Range [EAER] WLTP, Comb. 451 - 400 km
Electric Consumption 22,3 - 19,8 kWh/100 km
MEASUREMENTS AND VOLUMES
Length 4,440 mm
Width (Body width) 1,873 mm
Width (mirrors folded) 1,910 mm
Width (Including mirrors) 2,034 mm
Height (Including shark fen) 1,591 mm
Height with open tailgate/trunklid (H110) 2,219 mm
Wheelbase 2,702 mm
Track, front 1,598 mm
Track, rear 1,603 mm
Ground clearance (at curb weight + 1 person) 171 mm
Approach angle (at curb weight) 20,1 degr
Breakover angle (at curb weight) 16,2 degr
Departure angle (at curb weight) 26,6 degr
Wading capability depth at curb weight (max speed 10 km/h) 450 mm
WEIGHT/MISCELLANEOUS
Weight (Depending on type of engine, gearbox etc.) 2,185 kg
Total Weight (Depending on type of engine, gearbox etc.) 2,620 kg
Max trailer weight, Unbraked (Max) 750 kg
Max trailer weight, Braked (Max) 1,800 kg
Aerodynamics, (Cd) 0,319
Aerodynamics, (Frontal area) 2,54 m²
Max roof load 75 kg
INTERIOR MEASUREMENTS
Headroom with panoramic roof (front) (Maximum) 1,040 mm
Headroom with panoramic roof (front/rear) 1,002 mm / 932 mm
Passenger compartment width at shoulder height (front/rear) 1,440 mm / 1,429 mm
Leg room (front/rear) 1,040 mm / 917 mm
Hip room (front/rear) 1,390 mm / 1,388 mm
Largest Luggage volume - First (V214-1) (Largest volume. Load height limited by the head lining. Front limited by vertical plane tangential to the rear side of the front seatback) Total (including V209) 1205 l
Largest Luggage volume - Second (V214-2) (Second seat up. Load height limited by the headlining. Front limited by vertical plane tangential to the rear side of the front seatback) Total (including V209) 489 l
Open Luggage Compartment - First (V211-1) (Second seat folded. Load height limited to upper edge of the front seatback or lower edge of the rear window) Total (including V209) 853 l
Open Luggage Compartment - Second (V211-2)(Second seat up. Load height limited to the upper edge of the second seatback or second window) Total (including V209) 413 l
Luggage volume, Separate Storage Areas in Luggage Compartment. (V209). (Closed storage areas located around the luggage compartments, behind wheel arches, under the floor, or any other area) 68 l
Frunk volume (Front luggage volume) - E400V6 US / all other 21 l / 31 l
CHASSIS
Suspension front MacPherson Suspension, Coil Springs, Hydraulic Shock Absorbers, Stabilizer Bar
Suspension rear Rear multi-link Suspension with Coil Springs, Hydraulic Shock Absorbers,Stabilizer Bar
Steering Electrical Power Assisted Rack
Steering ratio (angle/angle) 15,8
Turning circle (Curb to curb) 11,4 m
Turning circle (Wall to wall) 11,8 m
Turns of steering wheel end to end 2,7
Braking system Antilock Braking System (ABS) with Electronic Brake Distribution (EBD) and Electronic Brake Assistance (EBA)
Brake disc diameter (front) Brake: 18" 345 mm
Brake disc diameter (rear) Brake: 18" 340 mm
Brake disc thickness (front) Brake: 18" 30 mm
Brake disc thickness (rear) Brake: 18" 20 mm
Braking distance 100-0 km/h 36 m
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/
https://ift.tt/tHTydfX
รถยนต์
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ขับดีจนพี่อยากได้ ทดสอบรถยนต์ไฟฟ้า VOLVO C40 RECHARGE TWIN - ไทยรัฐ"
Post a Comment