เร่งตามตัวสาวทอม เชื่อเป็นขบวนการขายรถยนต์ข้ามประเทศ - ช่อง 7

เกิดขึ้นอีกแล้วสำหรับกรณีทำทีเป็นเช่ารถยนต์ แล้วลักลอบนำไปขายต่อยังประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับกรณีนี้แม้ผู้เสียหายจะสามารถติดตามจาก GPS ว่ารถยนต์อเนกประสงค์ที่ถูกเช่าไปนั้นกำลังจะข้ามชายแดน แต่สุดท้ายแล้วก็ติดตามตัวผู้เช่าไม่ได้ อีกทั้งพบพฤติกรรมของผู้เช่ารายนี้เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง และผู้เสียหายแจ้งความไปแล้วแต่ก็ไม่คืบหน้าเลย

นางสาวกนกณัฐ อุไรรัตน์ อายุ 35 ปี ผู้เสียหาย นำหลักฐานไปขอความช่วยเหลือจากทนายความที่สำนักงานทนายความจิตอาสา หลังเธอถูกสาวทอมที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า น้ำตาทศกัณฐ์ ทักเข้ามาเพื่อขอติดต่อเช่ารถยนต์อเนกประสงค์

โดย สาวทอม อ้างว่าจะเช่ารถยนต์อเนกประสงค์เพื่อกลับบ้านที่จังหวัดลำพูน เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 19-21 ตุลาคมที่ผ่านมา ค่าเช่าวันละ 1,950 บาท วางเงินไว้จำนวน 3,000 บาท และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่รถยนต์ ให้ไว้กับเธอเพื่อเป็นหลักฐาน ทำให้เธอมั่นใจเพราะได้ปฏิบัติตามขั้นตอนถูกต้อง อีกทั้งรถยนต์อเนกประสงค์ของเธอติดตั้ง GPS สามารถตรวจสอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง ระหว่างที่สาวทอมเช่ารถยนต์อเนกประสงค์ไปนั้น เธอได้เช็ก GPS ตลอด ก็ปกติ ไม่มีอะไรผิดสังเกต จนกระทั่งวันกำหนดคืนรถยนต์ สาวทอมได้ติดต่อกลับมาว่าขอต่อเวลาเช่าอีก 2 วัน พร้อมโอนเงินค่าเช่ามาให้เธอ แต่ที่ผิดสังเกตคือเมื่อเธอตรวจสอบ GPS กลับพบว่ารถยนต์อเนกประสงค์กำลังจะข้ามชายแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เธอตกใจและพยายามติดต่อสาวทอม แต่ก็ติดต่อไม่ได้

จนกระทั่งมั่นใจแล้วว่าต้องถูกนำรถยนต์อเนกประสงค์ไปขายที่ประเทศเพื่อนบ้านแน่นอน จึงไปแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง โดยผู้เสียหายได้ไปหาหลักฐานต่าง ๆ ด้วยตัวเอง มาส่งให้ตำรวจ ทั้งภาพถ่ายขณะที่รถยนต์อเนกประสงค์กำลังจะข้ามชายแดน และเอกสารในการเช่าต่าง ๆ ตั้งแต่แจ้งความไปกลับไม่มีความคืบหน้าทางคดีเลย อีกทั้งยังไม่มีการออกหมายจับสาวทอมอีกด้วย และจากการตรวจสอบก็พบว่าสาวทอมคนนี้เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันกับผู้ให้บริการเช่ารถยนต์รายอื่นในจังหวัดนนทบุรี และจังหวัดใหล้เคียง ทำให้เธอเชื่อว่าพฤติกรรมแบบนี้จะต้องทำเป็นขบวนการแน่นอน

อย่างที่บอกไปว่าเธอไปแจ้งความมาแล้วก่อนหน้านี้ตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา จนตอนนี้กลับไม่มีความคืบหน้า ล่าสุดเธอมาขอความช่วยเหลือ นายเกียรติคุณ ต้นยาง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา เพื่อให้ช่วยในการเร่งติดตามความคืบหน้า โดยทนายความก็บอกว่ากรณีดังกล่าวไม่ใช่คดีฉ้อโกงธรรมดา แต่มีการกระทำความผิดข้ามประเทศแล้ว อยากให้ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง เร่งออกหมายจับโดยเร็ว

นอกจากนี้ผู้เสียหายยังบอกอีกว่าเธอช้ำใจสุด ๆ เพราะรถยนต์อเนกประสงค์ที่ถูกขโมยไปนั้นเธอยังคงต้องผ่อนค่างวดรถต่ออีก 36 งวด งวดละกว่า 20,000 บาท เธอเครียดมาก อยากฝากผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ช่วยเร่งดำเนินการกวาดล้างขบวนการนี้ให้สิ้นซาก

Adblock test (Why?)