Search

ขายรถทั้งปีไปไม่ถึง 7 แสนคัน ญี่ปุ่นยอดตกหนักสุดรอบ 10 ปี - ประชาชาติธุรกิจ

ค่ายรถยนต์แหยงหลัง “ซูบารุ-ซูซูกิ” ถอนการลงทุนในไทยประกาศปิดโรงงานเลิกผลิต หวั่นมีตามมาอีกเป็นระลอกหากรัฐบาลไม่ยื่นมือช่วยเหลือ ประเมินทั้งปียอดขายรวมไม่ถึง 7 แสนคัน ตกหนักสุดในรอบ 10 ปี ยิ่งกว่าโควิด ดีลเลอร์ขายรถปิดตัวอุตลุด กระแส EV เริ่มแผ่ว เชื่อครึ่งปีหลังทัพจีนมาอีกลอตใหญ่แข่งเดือดสงครามราคา

อุตสาหกรรมรถยนต์ที่เคยเป็นอุตสาหกรรมดาวรุ่งของประเทศไทย และความหวังลำดับต้น ๆ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำของภูมิภาค โดยเฉพาะเป็น “ฮับ” ผลิตยานยนต์สำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน

แต่วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับอุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยในปี 2567

ปิดถาวร 2 โรงงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัปดาห์ที่ผ่านมามีค่ายรถยนต์ถึง 2 แบรนด์จากญี่ปุ่น ประกาศถอนการลงทุนโดยจะยุติการผลิตจากโรงงานประกอบในไทย ได้แก่ ซูบารุ ซึ่งมีกำหนดยุติไลน์ผลิตในสิ้นปี 2567 และอีกราย ซูซูกิ ประกาศยุติการผลิตราวสิ้นปี 2568 ทั้ง 2 แบรนด์ยืนยันว่า ยังทำตลาดในประเทศไทยต่อไป ซึ่งจะมีครบทั้งการขายและบริการหลังการขาย ขาดแต่การผลิตโดยจะใช้วิธีนำเข้าจากต่างประเทศมาจำหน่ายแทน

ซูซูกิให้เหตุผลเพิ่มเติมว่า การตัดสินใจในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทบทวนโครงสร้างการผลิตของซูซูกิทั่วโลกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในระดับโลกและสอดรับกับนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอนและการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า

ดังนั้น ซูซูกิจึงได้ตัดสินใจยุติไลน์ผลิตในไทยภายในช่วงสิ้นปี พ.ศ. 2568 ส่วนการนำเข้ามาขายจะมาจากโรงงานในภูมิภาคแถบอาเซียน รวมถึงประเทศญี่ปุ่น และประเทศอินเดีย

นอกจากปิดโรงงานตามกำหนด ซูซูกิมีแผนดูแลพนักงานในโรงงานผลิต ซึ่งมีอยู่ประมาณ 800 คน ตามกฎหมายแรงงาน และบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อเร่งหามาตรการเยียวยาพนักงานให้ดีที่สุดมากกว่ากฎหมายแรงงาน ขณะที่คู่ค้าซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 100 แห่งทั่วประเทศ อยู่ระหว่างพิจารณาลงในพื้นที่ว่างอย่างต่อเนื่อง และให้การสนับสนุนทุกด้าน

หวั่นทยอยปิดอีกหลายแบรนด์

แหล่งข่าวในวงการผู้ค้ารถยนต์กล่าวเสริมว่า ตลาดรถยนต์ตอนนี้เรียกว่ากำลังเจอวิบากกรรมทั้งกำลังซื้อที่อ่อนแอของตลาดในประเทศไทย รวมทั้งตลาดส่งออกหดตัวอย่างไม่เคยเจอมาก่อน

ตอนนี้เท่าที่ดูโดยเฉพาะช่วง 4 เดือนแรกของปี หดตัวทุกตลาด ยิ่งเป็นกลุ่มรถสันดาปภายในต้องบอกว่าแย่สุด ๆ ปิกอัพหดตัวเกือบ 50% ประกอบกับตลาดรถยนต์กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากเครื่องยนต์ธรรมดาไปสู่มอเตอร์ไฟฟ้า

ดังนั้นเชื่อว่าค่ายรถยนต์รายใดที่ยังไม่มีโปรดักต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ทั้งไฮบริด ปลั๊ก-อิน ไฮบริด และอีวีก็น่าจะประสบปัญหายอดขายหดตัวแบบน่าตกใจ ส่งผลให้สต๊อกบวมและมีโอกาสที่บริษัทแม่จะถอดการลงทุนด้านการผลิตในไทยแบบเดียวกับซูบารุและซูซูกิ

“ตอนนี้มีข่าวว่าหลายโรงงานแถวชลบุรี ระยอง เดิมเคยผลิตแบบ 2 กะมีโอที ตอนนี้เหลือกะเดียว สต๊อกเริ่มบวมวิ่งหาโกดังเก็บรถกันพรึ่บพรั่บ ดีลเลอร์เองก็ทยอยปิดตัวกันอุตลุด ตัวอย่างเช่น กลุ่มไซม์ ดาร์บี้ มีข่าวว่าพร้อมปิดอีก 6-7 โชว์รูม เลิกขายรถกลุ่มแมสซึ่งกำลังเผชิญวิกฤตหนี้เสียและการเข้มงวดของไฟแนนซ์ หันไปเน้นกลุ่มรถหรูแทน”

ทรุดหนักในรอบ 10 ปี

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดผลิตรถยนต์ 4 เดือน (มกราคม-เมษายน 2567) ทำได้แค่ 518,790 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา 17.05%

สำหรับเดือนเมษายน 2567 ยอดผลิตอยู่ที่ 104,667 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 11.02% และลดลงจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมา 24.34% ซึ่งเป็นผลจากการผลิตเพื่อขายในประเทศของรถยนต์นั่ง ลดลง 5.03% และรถกระบะที่หดตัวถึง 45.94% ถือว่าหดตัวหนักสุดในรอบ 32 เดือน หวังว่าครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้นจากการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลที่ไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ถ้าดูตลาดตอนนี้รถยนต์ในกลุ่มอีโคคาร์ ปิกอัพ และพีพีวี ได้รับผลกระทบอย่างมาก ทำให้ล่าสุดเอ็มจีประเมินความต้องการรถยนต์โดยรวมของปีนี้ว่าจะปรับลดลงเหลือราว ๆ 600,000-700,000 คัน

แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอดูแนวโน้มครึ่งปีหลังว่าตลาดรถยนต์จะปรับตัวดีขึ้นจากมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐ และการเปิดตัวรถยนต์ใหม่ของค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ได้หรือไม่

เช่นเดียวกับนายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพรวมรถยนต์ปีนี้ คาดว่าจะต้องปรับลดความต้องการจาก 800,000 คัน เหลือเพียง 700,000 คัน และในจำนวนนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเมินว่ารถยนต์ไฟฟ้าน่าจะมียอดขายเพียง 96,000 คัน ลดลงจากเดิมที่หลายคนมองว่าจะเพิ่มเป็น 140,000 คัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากการประเมินของค่ายรถยนต์ที่เชื่อว่าตลาดรวมน่าจะทำได้แค่ 6-7 แสนคัน จะเป็นตัวเลขที่ต่ำสุดในรอบ 10 ปี ประเทศไทยเคยทำยอดขายสูงสุดในปี 2562 ทะลุ 1 ล้านคัน ขณะที่ตัวเลขต่ำสุดในช่วงวิกฤตโควิดยังมียอดขายถึง 7.6 แสนคัน ซึ่งมากกว่าที่ประเมินปีนี้

กระบะ EV จีนพร้อมเดือด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า อีกปัจจัยหนึ่งที่น่าจับตา คือในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ EV จีนอีกหลายแบรนด์จะทยอยเข้ามาทำตลาดในบ้านเรา เรียกว่าเป็นทัพ EV ชุดที่ 3 ซึ่งสังเกตได้จากการเคลื่อนไหวในการจับจองพื้นที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป อีเวนต์ใหญ่ขายรถช่วงปลายปี โดยเจ้าของงานระบุว่ามีมากกว่า 4-5 ราย อาทิ Geely, Riddara, Omoda & Jacoo, Denza

ทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า น่าจะเกิดสงครามราคาขึ้นอีกรอบ โดยทัพEV ใหม่หากต้องการแจ้งเกิดก็ต้องใช้ราคาเป็นจุดขาย ในขณะที่ทัพ EV ชุดแรกและชุด 2 ที่เข้ามาก่อนไม่ว่าจะเป็น เอ็มจี, เกรท วอลล์ฯ, NETA, BYD, AION, CHANGAN ก็พร้อมต่อกร เมื่อสงครามราคาเกิดก็ยิ่งทำให้ตลาดรถยนต์ปั่นป่วนแน่นอน

โดยฉางอานยืนยันว่า ไตรมาส 3 มีแผนจะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ทั้งเอสยูวีและรถปิกอัพไฟฟ้า ฉางอานจะพัฒนา NEUVO 07 พวงมาลัยขวา มาทำตลาดในประเทศไทย รถรุ่นนี้เป็นรถเอสยูวีและรถปิกอัพในคันเดียวกัน ขนาด 5 ที่นั่ง พัฒนาบนแพลตฟอร์ม SDA มีหลังคากระจกด้านท้ายสามารถสไลด์เปิดกว้างได้เหมือนรถกระบะไฟฟ้า รองรับการบรรทุกของชิ้นใหญ่ มีให้เลือกทั้งรุ่นมอเตอร์เดียวให้กำลัง 252 กิโลวัตต์ หรือ 338 แรงม้าและมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ แบ่งเป็นคู่หน้าให้กำลัง 188 กิโลวัตต์ หรือ 252 แรงม้า ส่วนมอเตอร์คู่หลังให้กำลัง 252 กิโลวัตต์ หรือ 338 แรงม้า นอกจากนี้ยังพร้อมเปิดรถ EV ใหม่ภายใต้แบรนด์ AVATR ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ด้วย

ขณะที่แบรนด์ใหม่อย่าง Riddara จะมีปิกอัพไฟฟ้าเข้ามาทำตลาด คาดว่าน่าจะเป็น Riddara RD6 สเป็กเมืองจีน ให้กำลังสูงสุด 271 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 7 วินาที มีระยะวิ่งราว ๆ 400-500 กม.

ด้านโตโยต้าหากไม่มีอะไรผิดพลาด น่าจะเปิดตัวปิกอัพไฟฟ้าได้ภายในครึ่งปีหลังนี้เช่นกัน โดยนายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ระบุถึงแผนธุรกิจของโตโยต้าในประเทศไทยว่า ในช่วงปลายปี 2568 โตโยต้าพร้อมแนะนำรถปิกอัพไฟฟ้า 100% หรือไฮลักซ์ รีโว่ BEV ออกสู่ตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการแน่นอน

Adblock test (Why?)

อ่านบทความและอื่น ๆ ( ขายรถทั้งปีไปไม่ถึง 7 แสนคัน ญี่ปุ่นยอดตกหนักสุดรอบ 10 ปี - ประชาชาติธุรกิจ )
https://ift.tt/0HlvieK
รถยนต์

Bagikan Berita Ini

0 Response to "ขายรถทั้งปีไปไม่ถึง 7 แสนคัน ญี่ปุ่นยอดตกหนักสุดรอบ 10 ปี - ประชาชาติธุรกิจ"

Post a Comment

Powered by Blogger.