Search

ยอดขายรถยนต์ในยุโรปเดือนม.ค.พุ่ง 11% หลังดีมานด์ผู้บริโภคฟื้นตัว - efinanceThai

 

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในทวีปยุโรป เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11% หลังผู้ผลิตรถยนต์อย่าง Volkswagen AG และ Stellantis NVได้รับประโยชน์จากคำสั่งซื้อที่ค้างอยู่และความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ฟื้นตัว

สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป เปิดเผยว่า ยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในเดือนม.ค. เพิ่มขึ้นเป็น 1.02 ล้านคัน โดยรถยนต์ไฟฟ้ามียอดจดทะเบียนคิดเป็น 11.9% ของการส่งมอบทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากระดับ 10.3% เมื่อปีที่แล้ว หลังค่ายผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าต่างมุ่งหวังในการเพิ่มยอดขาย ท่ามกลางการแข่งขันด้านราคาอย่างดุเดือด

อย่างไรก็ตาม แม้ยอดขายจะเพิ่มสูงขึ้น แต่การทำให้ยอดขายฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากในปีนี้ เนื่องจากหลายประเทศ อาทิ เยอรมนี สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส ยังคงเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งทั้ง 3 ประเทศ ถือเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป ส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดความวิตกกังวล รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง

Joachim Nagel ประธานธนาคารกลางเยอรมนี (Bundesbank) กล่าวว่า เศรษฐกิจของเยอรมนี อาจหดตัวเล็กน้อยในไตรมาสแรกของปีนี้ ในขณะที่ฝรั่งเศสปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ลง โดยคาดว่าจะเติบโตเพียง 1% ด้านสหราชอาณาจักรเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงครึ่งหลังของปีที่ผ่านมา

ยอดขายที่ลดลง เป็นปัจจัยหลักที่เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) แม้ว่าการส่งมอบรถยนต์แบตเตอรี่ไฟฟ้า (BEV) ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 29% แต่พบว่ามีส่วนแบ่งทางตลาดที่ต่ำที่สุดในรอบปี

 

ทั้งนี้ การเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า กำลังสร้างแรงกดดันให้กับผู้ผลิตรถยนต์ที่ต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ ท่ามกลางการเผชิญกับกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 

ที่มา Bloomberg

Adblock test (Why?)

อ่านบทความและอื่น ๆ ( ยอดขายรถยนต์ในยุโรปเดือนม.ค.พุ่ง 11% หลังดีมานด์ผู้บริโภคฟื้นตัว - efinanceThai )
https://ift.tt/Tbv1wUe
รถยนต์

Bagikan Berita Ini

0 Response to "ยอดขายรถยนต์ในยุโรปเดือนม.ค.พุ่ง 11% หลังดีมานด์ผู้บริโภคฟื้นตัว - efinanceThai"

Post a Comment

Powered by Blogger.