เทสลาเสียแชมป์ผู้นำตลาดรถ EV หลังเผยยอดขาย Q4/2566 - efinanceThai

เทสลา ผู้ผลิตรถยนต์ฟ้ารายใหญ่จากสหรัฐ เสียตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของโลกให้กับบีวายดี (BYD) ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน หลังเปิดเผยยอดขายไตรมาส 4/2566 อยู่ที่ 484,507 คัน สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และสูงกว่าช่วงเดียวกับของปี 2565 เกือบ 20% โดยตัวเลขดังกล่าวเป็นยอดขายรายไตรมาสที่สูงเป็นประวัติการณ์ของเทสลา

ขณะที่เมื่อวานนี้ บีวายดี (BYD) ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน เผยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า ในไตรมาส 4/2566 อยู่ที่ 526,409 คัน และผงาดขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเบอร์หนึ่งของโลกได้สำเร็จ ปัจจุบันบีวายดี จำหน่ายเฉพาะในเอเชียและยุโรป โดยยังไม่ทำตลาดในอเมริกาเหนือ

ขณะที่สำนักข่าว CNBC รายงานว่า ยอดการผลิตของเทสลา ในไตรมาส 4/2566 อยู่ที่ 494,989 คัน, ยอดส่งมอบตลอดทั้งปี 2566 อยู่ที่ 1,808,581 คัน และยอดการผลิตอยู่ที่ 1,845,985 คัน

เมื่อเทียบกับ 2565 เทสลามียอดส่งมอบอยู่ที่ 1.31 ล้านคัน และยอดการผลิต 1.37 ล้านคัน เทียบกับตัวเลขล่าสุดในปี 2566 เทสลามียอดส่งมอบเพิ่มขึ้น 38% ขณะที่ยอดการผลิตเพิ่มขึ้น 35%

อย่างไรก็ดี เทสลากำลังเผชิญกับความท้าทายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ค่ายใหญ่ได้หันมาพัฒนาและผลิตรถยนต์ EV กันมากขึ้น การที่เทสลาหันมาใช้กลยุทธ์หั่นราคา เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและพยายามแก้ปัญหาอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นที่ทำให้ต้นทุนการเป็นเจ้าของรถเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แม้จะเป็นผลดีกับยอดขาย แต่ก็กระทบกับอัตรากำไรที่แคบลง

นอกจากนี้ บริษัทยังเจอปัญหาที่รถยนต์บางรุ่น รวมถึงรุ่น Model 3 ไม่ได้รับสิทธิเครดิตภาษีอีวีเต็มจำนวน 7,500 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจัดสรรให้กับผู้ซื้อรถยนต์ในสหรัฐฯ เนื่องจากมีข้อจำกัดสำหรับรถ EV ที่ใช้แบตเตอรี่หรือวัสดุอื่น ๆ ที่นำเข้าจากจีน แม้จะเป็นรถที่ประกอบในสหรัฐฯ ก็ตาม รวมไปถึงข้อจำกัดการรับสิทธิสำหรับผู้ซื้อที่มีรายได้สูง

Adblock test (Why?)