ไขข้อข้องใจ รถรุ่นเดียวกัน แต่ทำไมค่าเบี้ยประกันรถยนต์ไม่เท่ากัน - ข่าวสด

หลายคนเคยสงสัยกันหรือไม่ว่าเพราะเหตุใดใช้ประกันภัยรถยนต์บริษัทเดียวกัน รถยี่ห้อเดียวกัน แต่ทำไมอีกคนหนึ่งถึงจ่ายในราคาที่ต่ำกว่า และอีกคนถึงจ่ายแพงกว่า เพราะด้วยอาชีพของผู้ทำประกัน ที่อยู่อาศัย หรือพฤติกรรมการขับขี่ ปัจจัยทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลทำให้เบี้ยประกันภัยรถยนต์ของแต่ละคนไม่เท่ากัน วันนี้เราจะพาทุกคนมาเช็คราคาประกันรถยนต์ว่าทำไมรถรุ่นเดียวกัน แต่ทำไมค่าเบี้ยประกันถึงไม่เท่ากัน พร้อมปัจจัยอื่น ๆ ที่คุณต้องรู้

ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเบี้ยประกันแบ่งตามกลุ่มรถยนต์

สำหรับเบี้ยประกันรถยนต์แต่ละกลุ่มที่มีราคาไม่เท่ากัน เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยด้วยกัน และหนึ่งในนั้นคือ กลุ่มรถยนต์ โดยพิจารณาจากรุ่นรถยนต์ ชนิดของรถยนต์ ขนาดเครื่องยนต์ ราคาอะไหล่ หรือค่าซ่อม โดยเกณฑ์การแบ่งกลุ่มรถยนต์ สามารถแบ่งออกได้ดังนี้

รถยนต์กลุ่มที่ 1 ราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป

สำหรับรถยนต์กลุ่มที่ 1 จะมีอัตราเบี้ยประกันสูงกว่ารถยนต์กลุ่มอื่น เพราะมูลค่ารถยนต์ค่อนข้างสูง สมรรถนะสูง อะไหล่สั่งทำพิเศษ จึงทำให้บริษัทประกันภัยต้องพิจารณาความเสี่ยงที่ครอบคลุมถึงการคุ้มครองต่อตัวรถยนต์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีราคาสูงรวมกันไปด้วย

รถยนต์กลุ่มที่ 2 ราคา 1.5 ล้านถึง 5 ล้านบาท

ส่วนรถยนต์กลุ่มที่ 2 ถูกจัดอยู่ในกลุ่มรถหรูขนาดเล็ก (Entry-Level Luxury) ไปจนถึงรถหรูระดับกลาง (Mid-Size Luxury) ถึงแม้ว่ารถยนต์ทั่วไปที่ราคาไม่สูงเท่ากลุ่มที่ 1 แต่รถบางรุ่นเป็นรถที่ต้องนำเข้า หรือชิ้นส่วนผลิตจากต่างประเทศรวมอยู่ด้วย ซึ่งอัตราเบี้ยประกันจึงมีราคาสูงกว่ารถตามท้องตลาด

รถยนต์กลุ่มที่ 3 ราคา 1 ล้านถึง 1.5 ล้านบาท

สำหรับรถยนต์กลุ่มที่ 3 มีอัตราเบี้ยประกันค่อนข้างดีกว่ากลุ่มก่อนหน้านี้ เนื่องจากเป็นรถที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จึงทำให้อะไหล่และอุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถหาซ่อมได้ไม่ยากนัก พร้อมทั้งยังมีอู่หรือศูนย์บริการให้เลือกเยอะ

รถยนต์กลุ่มที่ 4 ราคา 7 แสนถึง 1 ล้านบาท

ส่วนรถยนต์กลุ่มที่ 4 มีอัตราเบี้ยประกันค่อนข้างราคาดีกว่ากลุ่มที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วรถกลุ่มนี้จะเป็นรถเอเชียขนาดกลาง หรือที่เรานิยมเรียกกันว่ารถตลาด ซึ่งมีขนาดเครื่องยนต์ความจุที่ต่ำกว่า 2,000 ซีซี

รถยนต์กลุ่มที่ 5 ราคาไม่เกิน 7 แสนบาท

สำหรับรถยนต์กลุ่มที่ 5 ส่วนใหญ่จะเป็นรถกลุ่ม Eco Car ที่มีขนาดเครื่องยนต์ความจุต่ำกว่า 1,200 ซีซี และเป็นรถที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีอะไหล่และการซ่อมแซมที่ง่าย พร้อมตัวเลือกของศูนย์บริการอู่ซ่อมที่หลากหลาย จึงทำให้บริษัทประกันภัยเสนอเบี้ยราคาที่ดีกว่ากลุ่มอื่น ๆ

ปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อค่าเบี้ยประกันรถยนต์

แต่อย่างไรก็ตาม นอกจากกลุ่มรถยนต์ทั้งหมด 5 กลุ่มที่ได้กล่าวไปแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลให้มีเบี้ยประกันที่แตกต่างกัน ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมายที่ส่งผลทำให้ค่าเบี้ยประกันรถยนต์แตกต่างกัน ได้แก่

อายุของผู้เอาประกัน

สำหรับปัจจัยแรกที่ส่งผลต่อค่าเบี้ยประกันรถยนต์ที่แตกต่างกันคือเรื่องของอายุผู้เอาประกัน โดยกรมธรรม์แบบระบุชื่อผู้ขับขี่จะคิดค่าเบี้ยประกันถูกกว่าแบบไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ แต่ถ้าชื่อที่ระบุมีอายุน้อย ราคาก็จะยิ่งแพงขึ้น เนื่องจากผู้ขับขี่ยังมีประสบการณ์ขับขี่น้อย จึงทำให้มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเกิดอุบัติเหตุ

ประวัติการขับขี่

ประวัติการขับขี่รถทั้งในส่วนของบุคคลผู้ทำประกันรถยนต์และประวัติการใช้รถในแต่ละปี หากมีการยื่นเคลมประกันบ่อยครั้งหมายถึงเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุได้มาก จึงทำให้อัตราค่าเบี้ยประกันภัยก็สูงตามไปด้วย เรื่องของประวัติการขับขี่จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการคำนวณอัตราเบี้ยประกันรถยนต์

อาชีพของผู้เอาประกัน

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการพิจารณาเพื่อคำนวณอัตราการชำระเบี้ยประกัน โดยบริษัทประกันภัยจะมองว่าอาชีพของคุณมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนในการใช้งานรถยนต์ ในบางรายอาจต้องมีการขอทำประกันภัยรถยนต์พิเศษที่เรียกว่า ประกันสำหรับผู้ขับขี่หลายคน เพื่อครอบคลุมการดูแลทั้งหมด

ค่าเสียหายส่วนแรก

สำหรับค่าเสียหายส่วนแรกเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการคำนวณค่าเบี้ยประกัน กรมธรรม์ที่มีค่าเสียหายส่วนแรกจะได้รับส่วนลด ซึ่งทำให้เบี้ยประกันมีราคาถูกกว่ากรมธรรม์ที่ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก

วงเงินของกรมธรรม์

วงเงินของกรมธรรม์มีส่วนสำคัญต่อการกำหนดอัตราเบี้ยประกัน เพราะหากเกิดเหตุการณ์ใด ๆ ขึ้นมา ทางบริษัทประกันจะจ่ายค่าสินไหมให้ก็จริง แต่ยอดรวมทั้งหมดจะไม่เกินวงเงินคุ้มครองในกรมธรรม์ประกันภัย เช่น หากเกิดอุบัติเหตุที่มูลค่ารวม 200,000 บาท วงเงินคุ้มครองมีเพียงแค่ 100,000 บาท เจ้าของรถจะต้องแบกภาระในการหาเงินส่วนต่างมาชำระ

สรุปค่าเบี้ยประกันรถยนต์ไม่เท่ากัน

สำหรับเรื่องของประกันรถยนต์ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นอย่างมาก เพราะการดูเพียงแค่เบี้ยประกันที่มีราคาถูก ก็อาจจะทำให้คุณต้องจ่ายค่าส่วนต่างที่ต้องจ่ายเพิ่มเติมเองอีกมากมาย ไม่งั้นอย่างนั้นจะกลายเป็นว่าได้ราคาเบี้ยถูกแต่มีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แอบแฝง ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อประกันรถยนต์ อย่าลืมดูเงื่อนไขรายละเอียดให้ครบถ้วนที่สุด

Adblock test (Why?)