Search

ประกันรถยนต์ไฟฟ้า ปี'66 โตสูงกว่าเบี้ยประกันรถยนต์ทุกประเภท 46% - PPTVHD36

ข่าว

เผยแพร่: 647

แรบบิท แคร์ เผย ประชาชนตื่นตัวในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า หนุนประกันรถยนต์ไฟฟ้าโตสูงกว่าเบี้ยประกันรวมรถยนต์ทุกประเภท 46%

นายชยพัทธ์ สกุลร่มโพธิ์ชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเชิงพาณิชย์ บริษัท แรบบิท แคร์ จำกัด เปิดเผยว่า อัตราการเติบโตของยอดขายประกันรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เติบโตสูงกว่าอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันรวมรถยนต์ทุกประเภท 46% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งได้อานิสงส์จาก ความตื่นตัวในการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า, นโยบายสนับสนุนของภาครัฐ รวมถึงการแข่งขันของโปรโมชั่นของผู้ผลิตรถยนต์

กระแสอีวีแรง! แย่งแชร์รถกลุ่ม 1 ล้านบาท ฟอร์ด รับกระทบ 'เอเวอเรสต์'

'มาสด้า' ชี้รัฐหนุนอีวีเป็นตัวเร่งบิดเบือนกลไกตลาดฉุดยอดปี'66 ร่วง 47%

แรบบิท แคร์
ยอดขายประกันรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เติบโตสูงกว่าอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันรวมรถยนต์ทุกประเภท 46% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังคงได้รับการสนใจและเติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่เทคโนโลยีก็ยังจะมีการพัฒนาเพิ่มเติมต่อไปอีก ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ไฟฟ้าไปจนถึงระบบขับเคลื่อนแบบไร้คนขับ (Autonomous driving) ความคึกคักของการแข่งขันในตลาดผลิตภัณฑ์อีวีในตลาดโลก นำโดยแบรนด์จากสหรัฐอเมริกาและจีน ที่เริ่มมีการทยอยเปิดตัวโมเดลรุ่นรถใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่กำลังพิจารณารถยนต์ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในตัวเลือก

การที่อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ามีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ นั้น มีส่วนช่วยให้บริษัทประกันมีข้อมูลที่ครอบคลุมในการประเมินความต้องการ พฤติกรรมการใช้งาน และความเสี่ยงของผู้ขับขี่รถยนต์ EV และออกแบบผลิตภัณฑ์ ประกันรถยนต์ EV ที่หลากหลาย ตอบโจทย์ และเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เราเชื่อมั่นว่า จุดแข็งของระบบปฎิบัติการความแคร์ CareOS 2.0 ของเรายังมีบทบาทที่สำคัญในการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจลูกค้ามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มรถน้ำมัน ไฟฟ้า หรือพลังงานทางเลือกอื่นๆ ที่จะตามมาในอนาคตอีกด้วย เช่น รถยนต์พลังไฮโดรเจน หรือเชื้อเพลิงสังเคราะห์ (E-Fuels)

อย่างไรก็ตาม รถยนต์ไฟฟ้ายังถือเป็นอะไรที่ใหม่มากสำหรับคนไทย ดังนั้นการที่จะซื้อรถยนต์ประเภทดังกล่าว ควรที่จะมีการศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบว่าตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ของตนเองหรือไม่ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ามีรายละเอียดการใช้งานที่ต้องทำความเข้าใจให้ดีหลายด้าน ได้แก่

  1. พฤติกรรมการใช้รถ โดยจะต้องคำนึงถึงการใช้งานระยะทางเฉลี่ยต่อวัน การวางแผนในการชาร์จให้เหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละบุคคล เนื่องจากจุดชาร์จอาจจะยังไม่เพียงพอในแต่ละพื้นที่ จึงจำเป็นต้องมีการวางแผนล่วงหน้าก่อนการเดินทาง
  2. ความหลากหลายของประเภทรถ อาจจะยังมีตัวเลือกประเภทของรถที่ไม่ครอบคลุมทุกความต้องการในการใช้งานเท่าที่ควรหากเทียบกับรถสันดาปทั่วไปที่มีให้เลือกทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถกระบะ รถตู้ และรถบรรทุก
  3. ความพร้อมของศูนย์บริการ ปัจจุบันอู่รถทั่วไปยังไม่มีความชำนาญในการดูแลรถยนต์ EV ที่มากพอ แบรนด์รถยนต์ EV จึงเดินหน้าขยายศูนย์บริการให้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อลดความกังวลของเจ้าของรถเกี่ยวกับการรับบริการหลังการขาย อาทิ การนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็คและบำรุงรักษารถให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
  4. ค่าใช้จ่ายแฝง ที่อาจจะเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นค่าตู้และค่าติดตั้ง Wallbox ซึ่งรถบางยี่ห้ออาจไม่ได้แถมมาให้ ค่าใช้จ่ายในการเพิ่มมิเตอร์ไฟเพื่อให้รองรับโหลดของการชาร์จไฟให้เพียงพอ การดูแลและการเปลี่ยนแบตเตอรี่ในอนาคต หรือค่ายางรถยนต์ที่แพงกว่ารถสันดาป

โดย 4 เช็คลิสต์เบื้องต้นสำหรับมือใหม่ที่สนใจจะเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าคันแรก ซึ่งเมื่อพร้อมและศึกษาข้อมูลเป็นอย่างดีแล้ว ขณะนี้ถือเป็นอีกช่วงเวลาที่เหมาะสมทั้งด้วยการสนับสนุนส่วนลดจากภาครัฐ ส่วนลดที่น่าดึงดูดจากแบรนด์รถยนต์ รวมถึงโปรโมชันอื่น ๆ ที่จะทำให้ภาคประชาชนที่สนใจหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความคุ้มค่าที่มากขึ้น

วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

Adblock test (Why?)

อ่านบทความและอื่น ๆ ( ประกันรถยนต์ไฟฟ้า ปี'66 โตสูงกว่าเบี้ยประกันรถยนต์ทุกประเภท 46% - PPTVHD36 )
https://ift.tt/zGhd6gO
รถยนต์

Bagikan Berita Ini

0 Response to "ประกันรถยนต์ไฟฟ้า ปี'66 โตสูงกว่าเบี้ยประกันรถยนต์ทุกประเภท 46% - PPTVHD36"

Post a Comment

Powered by Blogger.