
ต้องยอมรับว่ากระแสรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มาแรงอย่างมาก ยิ่งล่าสุดในสุดงาน "Motor Expo 2022" ยอดขายรถปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นยอดจองของค่าย BYD, NETA และ MG ที่อยู่ในระดับสูง ล่าสุดการมาของ Tesla ได้เริ่มต้นการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการในประเทศไทยก็มียอดจองถล่มทลายอีกด้วย
แน่นอนว่าเมื่อยอดจองถล่มทลายแบบนี้ มีหุ้นหลายกลุ่มที่เตรียมรับผลบวก หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อกลุ่ม กลุ่มสินเชื่อ และประกันรถยนต์ โดยนักวิเคราะห์บล. เอเซีย พลัส ได้ออกบทวิเคราะห์ กระแสรถยนต์ EV มาแรงแซงทางโค้ง หุ้นกลุ่มไหนได้ประโยชน์ ซึ่งกลุ่มสินเชื่อ และประกันรถยนต์ เป็นหนึ่งในนั้นที่จะได้รับผลบวกด้วย
โดยระบุว่า ยอดจองรถยนต์ภายในงานอยู่ที่ 36,679 คัน สูงขึ้น 16% จาก Motor Expo ครั้งก่อน หากพิจารณาแต่ละค่ายรถยนต์จะเห็นได้ว่า ค่ายรถยนต์ที่มีรถไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่จะมียอดจองที่เติบโตเด่นกว่ารถยนต์สันดาบ อาทิ BYD ยอดจอง 2,714 คัน (สูงเป็นอันดับ 3 เมื่อเทียบกับทุกค่าย), Nissan ยอดจอง 2,478 คัน (เพิ่มขึ้น 141%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน) ,GWM ยอดจอง 1,995 คัน (เพิ่มขึ้น 130%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน) เป็นต้น
การฟื้นตัวของยอดจอง บ่งชี้ความมั่นใจของผู้บริโภคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไป หลังสถานการณ์ COVID ทยอยดีขึ้นและการเดินหน้าเปิดประเทศ ประเมินหนุนยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2566 ฟื้นไปในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ยังเห็นพัฒนาการของการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าในไทย
โดยยอดขายรถยนต์รวมทั้งประเทศราว 8 แสนคัน ถึง 1 ล้านคันต่อปี ซึ่งปัจจุบันยอดจดทะเบียน BEV ใหม่งวด 10 เดือนปี 65 ที่ 2% ของยอดขายรถยนต์ไทยเท่านั้น ทำให้ยังมี Upside เปิดกว้างกับประเด็นดังกล่าว หลังรัฐบาลมีนโยบาย Zero-Emission
ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Theme รถยนต์ BEV และเทรนด์การรักสิ่งแวดล้อมแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสินเชื่อ ประกันรถยนต์ กลุ่มองค์ประกอบเสริม (สถานีชาร์ต/แบตเตอรี่) และหุ้นติดเทรน ESG ที่เพิ่งเข้าดัชนี Dow jones Sustainability Index
ดังนั้นภายใต้ 4 กลุ่มที่ได้รับผลบวกดังกล่าว Wealthy Thai จึงได้หยิบยก กลุ่มสินเชื่อ ประกันรถยนต์ มาฝากนักลงทุน โดยบล. เอเซีย พลัส กล่าวว่า แม้ในเชิงของขนาดสินเชื่อยังไม่ได้มีนัยสำคัญ สอดคล้องกับสัดส่วนยอดจดทะเบียน BEV ใหม่เทียบกับยอดขายรถยนต์
อย่างไรก็ดีการเข้ามาของค่ายรถยนต์ใหม่เปิดโอกาสในการเพิ่มพันธมิตร Captive ใหม่ รวมไปถึงการต่อยอดรายได้ค่าธรรมเนียมฯ ในอนาคต ผ่าน Banassurance เนื่องจากค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า ณ ปัจจุบัน สูงกว่ารถยนต์สันดาป (ขึ้นกับรุ่นของรถยนต์) แนะนำ TISCO (ที่เริ่มทำ Captive กับ GWM) รวมถึงหุ้นอื่นๆ BAY, KKP, และ TTB
สำรวจปัจจัยพื้นฐาน
4 หุ้นรับผลบวกTISCO โดยบล. พาย มีความเห็นว่า ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 66-67 ขึ้น 2-4% ตามลำดับ จากสินเชื่อที่โตสูงขึ้น แต่ยังคงตัวเลขปี 65 ด้วยคาดการณ์ ว่ากำไรสุทธิจะโต 7% มาที่ 7.3 พันล้านบาท และเติบโต 7-8% ในปี 66-67 หนุนจาก NII ที่สูงขึ้น คงคำแนะนํา "ซื้อ" ด้วยมูลค่าพื้นฐานใหม่ 112 บาท จาก 108 บาท
ทั้งนี้คาดว่าสินเชื่อจะโตดีกว่าที่ผู้บริหารและฝ่ายวิจัยคาด เพราะยอดขายรถที่แข็งแกร่ง และยอดจองรถที่สูงในงาน Thailand International Motor Expo ครั้งที่ 39 สะท้อนเศรษฐกิจที่ดีขึ้น อุปสงค์รถใหม่สูงขึ้น และภาพรวมรถ EV ที่ดี จึงปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของสินเชื่อเป็น 7.5%/5.4%/5.5% ในปี 65-67
ถัดมา BAY แม้ล่าสุดยังไม่มีการประเมินของนักวิเคราะห์ แต่บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) ได้ออกมาประเมินเมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า แนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน 39.50 บาท กำไรไตรมาส 3/65 เป็นไปตามคาด โดยยังคงเห็นการเติบโตของรายได้จากธุรกิจปกติทั้งรายได้ดอกเบี้ย และรายได้ค่าธรรมเนียม
แต่กำไรทั้งปีอาจจะลดลงอย่างปีก่อน เนื่องจากปีก่อนมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น TIDLOR โดยบริษัทยังคงเป็นความได้เปรียบจากการเป็นบริษัทลูกของธนาคารขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น จากการที่สินเชื่อรายใหญ่จากธุรกิจญี่ปุ่นยังคงโตต่อเนื่อง
ตามด้วย KKP มุมมองของนักวิเคราะห์บล. เอเอสแอล ระบุว่า แนะนำ “ซื้อ” KKP ราคาเป้าหมายสิ้นปี 66 ที่ 87.50 บาท โดดเด่นด้วยกำไรสุทธิทำนิวไฮต่อเนื่อง และเหนือระดับ 8 พันล้านบาท จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นทั้ง NII และ Non-NII รวมถึงมีปันผลที่น่าสนใจที่ระดับ 5-6% ชอบ KKP มากที่สุดในกลุ่มธนาคารกลาง-เล็ก โดยภาพรวมทั้งปี 65 ประเมินกำไรสุทธิอยู่ที่ 8.1 พันล้านบาท โต 28.4%จากปีก่อน ทำนิวไฮ และคาดว่ากำไรสุทธิจะยังขยายตัวต่อเนื่องในปี 66 ที่ 8.4%จากปีก่อนหน้า
สุดท้าย TTB นักวิเคราะห์บล. เอเอสแอล ระบุว่า ประเมินกำไรสุทธิปี 65 เท่ากับ 1.43 หมื่นล้านบาท ขยายตัวกว่า 36.5%จากปีก่อน สูงที่สุดของกลุ่ม โดยคาดสินเชื่อจะขยายตัว 2.6% โดดเด่นในพอร์ต high yield ด้าน NIM ยังทรงตัวที่ 3% จากการทำการตลาดสินเชื่อบุคคลและ digital
รวมถึงในช่วงปลายปีมีงาน Expo motor show หนุนสินเชื่อ HP ด้าน Non-NII มี loan related fee และธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่ยังขยายตัว สำหรับ C/I เริ่มชะลอตัวลงเข้าสู่ระดับ Mid-40s สะท้อนการ Synergy หลังควบรวมกิจการ ด้านคุณภาพสินทรัพย์ยังแข็งแกร่ง ประเมิน NPLs ratio จะลดลงเล็กน้อยมาที่ระดับ 2.74% แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 1.50 บาท
https://ift.tt/9c0xNBZ
รถประกัน
Bagikan Berita Ini
0 Response to "4 หุ้นสินเชื่อ-ประกันรถกำลังโดดเด่น เมื่อกระแสยานยนต์ EV มาแรง แซงทุกโค้ง - WEALTHY THAI"
Post a Comment