
วันจันทร์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2564, 14.47 น.
2 ส.ค. 2564 ที่กระทรวงแรงงาน นายวิฑูรย์ แนวพานิช นายกสมาคมการค้าเครือข่ายแท็กซี่ไทย เป็นตัวแทนของผู้ประกอบอาชีพขับแท็กซี่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เข้าติดตามความคืบหน้ากรณีมาตรการเยียวยาผู้ขับแท็กซี่ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยในส่วนของกระทรวงแรงงานนั้นคือประเด็นการสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตนประกันสังคมมาตรา 40 เพื่อรับเงินเยียวยา 5,000 บาทเป็นเวลา 1 เดือน
นายวิฑูรย์ เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่อย่างรุนแรง จากเดิมที่เคยมีแท็กซี่วิ่งอยู่บนถนนประมาณ 8.3 หมื่นคัน ปัจจุบันเหลือเพียง 2 หมื่นคัน เนื่องจากประชาชนเดินทางลดลง ซึ่งกลุ่ม 2 หมื่นคันที่ยังพยายามดิ้นรนประกอบอาชีพนั้น วิ่งรถทั้งวันมีรายได้เฉลี่ยเพียง 300 บาท หักค่าเชื้อเพลิงแล้วเหลือเพียง 100 บาท แทบไม่มีเงินเหลือเป็นค่าอาหาร และต้องไม่ลืมว่าแท็กซี่ก็มีครอบครัวต้องดูแล มีค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ ไม่ต่างจากคนอาชีพอื่นๆ รวมถึงค่าผ่อนรถที่หลายคนไปต่อไม่ไหวต้องยอมปล่อยถูกยึดไป
“มีครอบครัว มีลูก มีเมีย มีค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ-ค่าไฟ ทุกสิ่งทุกอย่างจ่ายเหมือนกับข้าราชการ คนขับแท็กซี่มีรายจ่ายเหมือนกัน ไม่ได้กินแกลบแทนข้าวได้ เพราะฉะนั้นเขามีรายจ่ายเช่นที่ว่านี้ นี่คือด้านของคนขับที่ไม่สามารถอยู่ต่อไปได้และไม่มีจะกิน จนถึงขนาดฆ่าตัวตาย ผมเองคงไมได้พูด แต่ผมอยู่กับอาชีพนี้มามากกว่า 40 ปี ได้ยินข้อร้องเรียนร้องขอจากสมาชิกทุกวัน ถ้าไปต่อไม่ได้เขาต้องตาย” นายวิฑูรย์ กล่าว
นายวิฑูรย์ กล่าวต่อไปว่า ที่วันนี้เดินทางมายังกระทรวงแรงงาน เพราะต้องการสอบถามเรื่องการสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตนประกันสังคมมาตรา 40 เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้ขับรถแท็กซี่หลายรายไปลงทะเบียนที่ร้านสะดวกซื้อแล้วไม่สามารถลงทะเบียนได้เพราะระบบแจ้งว่าที่อยู่ตามบัตรประชาชนเป็นคนจังหวัดอื่นๆ ไม่ใช่กรุงเทพฯ และปริมณฑล นอกจากนี้คนขับรถบางรายมีอายุมากกว่า 65 ปีทำให้ไม่สามารถสมัครได้ จึงอยากให้แก้ไขด้วย
ด้าน นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ซึ่งมารับเรื่องร้องทุกข์ด้วยตนเอง กล่าวภายหลังการหารือกับนายวิฑูรย์ ยอมรับว่ากฎหมายประกันสังคมอนุญาตให้ผู้ยื่นขอสมัครเป็นผู้ประกันตนต้องมีอายุ 15-65 ปี ขณะเดียวกันก็เข้าใจคนขับแท็กซี่ที่มีความกังวล เพราะหลายคนเป็นคนต่างจังหวัดเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ แล้วไม่ได้ย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาด้วย แต่ก็ขอให้มั่นใจว่าจะดูแลไม่ให้ตกหล่น
โดยขอให้สมัครกันเข้ามา หากจ่ายเงินสมทบในกรุงเทพฯ เท่ากับทำงานในกรุงเทพฯ โดยคนขับนั้นก็มีใบขับขี่สาธารณะ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกรับรองเป็นหลักฐาน ดังนั้นจะไม่มีตกหล่น แต่หากมีก็จะทำเรื่องอุทธรณ์ให้ ส่วนคนขับแท็กซี่ที่อายุเกิน 65 ปี ตนได้ประสานกับทางสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ไปแล้ว คาดว่าทางผู้บริหารของสภาพัฒน์จะได้นำเรื่องเข้าหารือต่อไป
นายสุชาติ กล่าวต่อไปว่า กรณีคนขับแท็กซี่ที่รายได้ลดลงจนไม่สามารถจ่ายผ่อนรถได้และต้องยอมปล่อยรถถูกไฟแนนซ์ยึดไปโดยไม่มีการผ่อนผัน เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทางกระทรวงการคลังไปเจรจากับไฟแนนซ์ ว่าในสถานการณ์โควิด-19 แบบนี้ควรผ่อนผันกันไป หรืออัตราดอกเบี้ยค่าทวงถาม หากทำผิดกฎหมายทางกระทรวงการคลังก็ต้องไปดูแล
“ในสังคมวันนี้ที่มันเกิดปัญหาแล้วต้องมานั่งแก้ปัญหาเรื่องโควิดแพร่ระบาด อยากจะให้พี่น้องคนไทยทุกคนเอื้ออาทรต่อกัน และเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง เราไม่ได้ทำเพื่อตัวเราเอง ทุกคนทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ทำเพื่อทุกคนอยู่รอด ก็ควรอยู่บนบรรทัดฐานที่เขาไปได้ ถามว่ายึดรถเขาไปแล้วได้อะไร คุณยึดรถเขาแล้วได้อะไร เขาส่งมา 2 ปีเหลืออีกปีจะพ้นอยู่แล้ว แต่ไปยึดเขามาเขาก็เสียเงินที่ส่งไป แล้วคุณยึดเขาไปคุณก็ต้องจอดอยู่ดี ทำไมคุณไม่ประคองกันไปให้ได้ในส่วนนี้” นายสุชาติ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้ากระทรวงแรงงาน เป็นอีกจุดหนึ่งที่กลุ่มอาชีพขับรถแท็กซี่นำรถมาจอดไว้เพื่อแสดงสัญลักษณ์ว่าได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เช่นเดียวกับอีกหลายจุด อาทิ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยหวังว่ารัฐบาลจะเร่งจ่ายเงินเยียวยาให้โดยเร็วที่สุด
https://ift.tt/3ijE0Q9
รถประกัน
Bagikan Berita Ini
0 Response to "'สุชาติ'รับปากช่วย'แท็กซี่'เข้าประกันสังคมจ่ายเยียวยา ถามไฟแนนซ์ยึดรถตอนนี้ได้ประโยชน์อะไร - หนังสือพิมพ์แนวหน้า"
Post a Comment