โดยนายศรชัย เล่าว่า ตนกับภรรยาเปิดร้านขายของชำและกับข้าวในหมู่บ้าน แต่ช่วงสถานการณ์โควิดระบาดก็ขายของไม่ค่อยได้เหมือนเมื่อก่อนทำให้ขาดเงิน ช่วงเดือนเม.ย. 64 จึงได้ไปปรึกษาคนรู้จักและไว้เนื้อเชื่อใจคนหนึ่ง เขาก็แนะนำให้ลองติดต่อคุยไลน์กับ “น้ำตาล รถซิ่ง” เกี่ยวกับการรับจำนำรถ จากนั้นคนที่รู้จักก็ให้ ไอดีไลน์มา พอติดต่อสื่อสารกันทางไลน์ “น้ำตาล รถซิ่ง” ตามคำแนะนำของคนที่รู้จัก ก็ตัดสินใจนำรถเก๋งยี่ห้อ MG สีฟ้า-ขาว ทะเบียน กต-9106 บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นรถของลูกสาว ที่ไว้ใช้ในการขับซื้อของที่ตลาด โดยตกลงจำนำกันในราคา 40,000 บาท โดยนัดส่งมอบรถกันที่บริเวณข้างโรงรับจำนำเก่าในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ซึ่งก็มีผู้หญิงสาวสวยหน้าตาดีคนหนึ่งที่ติดต่อกันทางไลน์ “น้ำตาล รถซิ่ง” เป็นคนมารับรถและนำเงินมาให้ตนเอง โดยหญิงคนดังกล่าวได้จ่ายเงินค่าจำนำรถให้กับตนเองจำนวน 34,000 บาท เพราะได้หักดอกเบี้ยไว้ล่วงหน้า 4,000 บาท แต่ด้วยความไว้ใจเพราะคนรู้จักแนะนำ จึงไม่ได้มีการทำสัญญาหรือเอกสารใดๆ เพียงมีข้อตกลงว่าจะจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยให้ภายใน 4 เดือน
กระทั่งเดือนกรกฎาคม 2564 นายศรชัย ก็ติดต่อไปบอกว่าจะขอไถ่รถคืนแต่เงินก้อนยังไม่พอ จึงขอจ่ายเป็นงวด ซึ่งวันที่ 29 ก.ค. ได้โอนจ่ายดอกเบี้ยและเงินค่าจอดไปให้ก่อนจำนวน 6,000 บาท จากนั้นวันที่ 2 ส.ค. ได้โอนเงินต้นไปเพิ่มอีก 20,000 บาท และวันที่ 9 ส.ค. ได้โอนไปอีก 20,000 บาท ซึ่งก็ครบทั้งต้นและดอกเบี้ยตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งบัญชีปลายทางที่ให้โอนไปแต่ละครั้งชื่อผู้รับไม่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้เอะใจเพราะไม่ได้คิดว่าจะถูกหลอก แต่พอโอนเงินไปครบแล้วทาง “น้ำตาล รถซิ่ง” สาวสวยคนที่รับจำนำ ก็รับปากจะนำรถเก๋งมาคืนให้ในวันที่ 9 ส.ค. แต่รอทั้งวันก็ไม่เห็นเอารถมาคืนตามที่รับปาก ติดต่อไปก็อ้างว่ารถไปจอดอยู่ อ.ละปลายมาศบ้าง จ.นครราชสีมา บ้าง และจ.ชัยภูมิบ้าง จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รถคืน จึงเชื่อว่าน่าจะมีเจตนาโกงเอาเงินและเชิดรถไปด้วย
วันที่ 11 ส.ค.64 จึงได้เข้าแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพราะเกรงว่าจะเอารถไปทำในสิ่งผิดกฎหมาย และจากพฤติกรรมดังกล่าวก็เชื่อว่าน่าจะทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งขณะนี้ก็รอหนังสือมอบอำนาจจากบริษัท เพื่อทำการแจ้งความดำเนินคดีกับหญิงคนดังกล่าว และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เชื่อว่าทำเป็นขบวนการแน่นอน จึงอยากฝากถึงแก๊งดังกล่าวหากยังมีสำนึกก็ให้นำรถมาคืนเพราะต้องใช้ทำมาหากิน และยังต้องส่งงวดอีกหลายสิบงวด ก็อยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามให้ด้วยหากได้รถคืนก็จะไม่คิดใจเอาความ
ด้านนางจินตนา ภรรยาบอกว่า หากช่วงนี้มีทางเลือกก็คงไม่นำรถลูกสาวไปจำนำ เพราะก็รู้ว่ามันเสี่ยง แต่สุดท้ายก็ถูกหลอก ก็อยากฝากถึงกลุ่มแก๊งดังกล่าวด้วยว่าอย่าซ้ำเติมกันเลยแค่นี้ก็เดือดร้อนมากแล้ว ก็อยากให้นึกถึงเวรกรรมบ้าง หากเห็นใจและมีสำนึกก็ให้รถกลับมาส่งคืนเพราะเงินก็ได้ไปครบแล้ว อย่าซ้ำเติมกันเลย และอยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือด้วย เพราะกลัวแก๊งดังกล่าวจะนำรถไปขายต่อหรือทำสิ่งผิดกฎหมาย
อ่านบทความและอื่น ๆ ( สุดช้ำใจ! เอารถยนต์ไปจำนำ พอครบกำหนดโอนเงินจ่ายทั้งต้นทั้งดอก กลับโดนเชิดรถหนีหาย - ช่อง 7 )https://ift.tt/3mnFaN1
รถยนต์
Bagikan Berita Ini
0 Response to "สุดช้ำใจ! เอารถยนต์ไปจำนำ พอครบกำหนดโอนเงินจ่ายทั้งต้นทั้งดอก กลับโดนเชิดรถหนีหาย - ช่อง 7"
Post a Comment