สามี-ภรรยา นำรถยนต์ไปจำนำพอชำระคืนครบ ถูกเชิดรถหนี จ.บุรีรัมย์ - ช่อง 7

สามีภรรยา สุดช้ำใจ ช่วงโควิด-19 ค้าขายไม่ค่อยดี จึงนำรถยนต์ไปจำนำกับหญิงคนหนึ่ง ซึ่งมีคนรู้จักแนะนำ หวังจะนำเงินมาหมุนเวียนค้าขาย แต่พอโอนเงินจ่ายทั้งเงินต้นทั้งดอกเบี้ยครบหมดแล้ว กลับถูกเชิดรถหนี ติดต่อไม่ได้

ชายอายุ 52 ปี พร้อมภรรยา ชาวตำบลอิสาณ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งประกอบอาชีพเปิดร้านขายของชำในหมู่บ้าน นำเอกสารหลักฐานการสนทนาผ่านแอปพลิเคชันไลน์ และสลิปการโอนเงิน ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ พร้อมเล่าว่า เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เขาต้องการเงินมาหมุนเวียนใช้จ่ายในร้าน จึงปรึกษากับคนรู้จัก และได้รับคำแนะนำว่าให้ลองติดต่อกับคนที่รับจำนำรถ พร้อมให้ไอดีไลน์บุคคลดังกล่าวมาให้ เขาและภรรยาจึงติดต่อไป ก่อนจะตัดสินใจนำรถยนต์ ยี่ห้อ MG ซึ่งเป็นรถของลูกสาวให้ไว้ใช้ขับไปซื้อของที่ตลาดไปจำนำ โดยมีการตกลงจำนำกันในราคา 40,000 บาท และนัดส่งมอบรถยนต์กันที่บริเวณข้างโรงรับจำนำเก่า เขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ซึ่งคนที่มารับรถยนต์ก็เป็นผู้หญิงหน้าตาดี บุคคลเดียวกับที่คุยในไลน์

โดยหญิงคนดังกล่าว ได้จ่ายเงินค่าจำนำรถให้กับเขาจำนวน 34,000 บาท เพราะได้หักดอกเบี้ยล่วงหน้า 1 เดือน ด้วยความเชื่อใจ เห็นว่าคนรู้จักเป็นคนแนะนำ จึงไม่ได้มีการทำสัญญาหรือเอกสารใด ๆ เพียงมีข้อตกลงว่าจะจ่ายดอกเบี้ย เดือนละ 4,000 บาท และค่าจอดรถ 2,000 บาท รวมเป็นเงิน 6,000 บาทต่อเดือน ไปจนครบ 4 เดือนแล้วค่อยไถ่ถอนรถยนต์คืน

กระทั่งเดือนกรกฎาคม (ครบ 4 เดือน) เขาติดต่อไปบอกว่าจะขอไถ่ถอนรถคืน โดยจ่ายดอกเบี้ยงวดสุดท้าย วันที่ 29 กรกฎาคม จำนวน 6,000 บาท และวันที่ 2 สิงหาคม ได้โอนจ่ายเงินต้นไป 20,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 20,000 บาท จะชำระในวันที่นัดรับรถ ในวันที่ 9 สิงหาคม แต่ทางคนรับจำนำบอกว่าจะนำรถมาให้ ขอให้โอนเงินที่เหลือมาให้ทั้งหมดเลย ด้วยความเชื่อใจ เขาจึงโอนไปให้ และรอรับรถอยู่ที่บ้าน แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีคนนำรถมาให้ จึงตัดสินใจไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่โรงพัก

ผู้ร้องทุกข์ บอกว่า จากพฤติการณ์ผู้ก่อเหตุน่าจะทำร่วมกันเป็นขบวนการ ซึ่งหลังจากนี้จะเดินหน้าดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมฝากถึงผู้ก่อเหตุ หากยังมีสำนึก ก็ให้นำรถมาคืน ก็จะไม่ติดใจใจดำเนินคดี

Adblock test (Why?)