คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ (U.S. International Trade Commission: ITC) ประกาศผลการพิจารณาด้านความเสียหายของอุตสาหกรรมภายในประเทศเมื่อวันพุธ (23 มิ.ย.) โดยสรุปยืนยันว่าเกาหลีใต้, ไต้หวัน และไทย มีพฤติกรรมทุ่มตลาดยางรถยนต์นั่งและรถบรรทุกเล็ก ซึ่งทำให้ผู้ผลิตยางในสหรัฐฯ ได้รับความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญ
ITC ยังประกาศด้วยว่า การที่เวียดนามมีมาตรการอุดหนุนอย่างไม่เป็นธรรมต่อผู้ผลิตยางรถยนต์นั่ง มีส่วนทำให้ผู้ผลิตยางในสหรัฐฯ ได้รับความเสียหายเช่นกัน
ผลจากคำตัดสินนี้จะทำให้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ “ออกคำสั่งเรียกเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (antidumping duty – AD) ต่อผลิตภัณฑ์ยางล้อนำเข้าจากเกาหลีใต้, ไต้หวัน และไทย รวมถึงมีมาตรการตอบโต้ทางภาษีต่อผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์นั่งของเวียดนาม” ITC ระบุในคำแถลงวานนี้ (23)
ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยังไม่ออกมาให้ความเห็นในประเด็นดังกล่าว
ทั้งนี้ ITC ยังพบว่า ยางรถยนต์นำเข้าจากเวียดนามซึ่งจำหน่ายในสหรัฐฯ ด้วยราคาต่ำกว่าท้องตลาดนั้น “ไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ” และให้ยุติการสอบสวนเพื่อเรียกเก็บภาษี AD ในส่วนของเวียดนาม
ปีที่แล้ว กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้เปิดการสอบสวนยางรถยนต์นำเข้าจากเกาหลีใต้, ไต้หวัน, ไทย และเวียดนาม หลังได้รับคำร้องเรียนจากสหภาพแรงงานเหล็กกล้า (United Steelworkers : USW) ซึ่งเป็นตัวแทนแรงงานในภาคอุตสาหกรรมยางรถยนต์ของสหรัฐฯ
“เราขอขอบคุณที่ ITC ออกมาสรุปยืนยันในสิ่งที่สมาชิก USW เล็งเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน นั่นคือความพยายามที่จะเอาเปรียบอุตสาหกรรมภายในประเทศและควบคุมตลาดของเรา” ทอม คอนเวย์ ประธาน USW ระบุในคำแถลง
สหรัฐฯ นำเข้ายางรถยนต์จากไทย, เกาหลีใต้, ไต้หวัน และเวียดนามคิดเป็นมูลค่าราว 4,400 ล้านดอลลาร์ในปี 2020
UWS ระบุว่า ปริมาณการนำเข้ายางรถยนต์จากทั้ง 4 ชาติเพิ่มขึ้นเกือบ 20% นับตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา โดยมีจำนวนยางนำเข้ามากถึง 85.3 ล้านเส้นในปี 2019
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้เรียกเก็บภาษี AD ชั่วคราวจากบริษัทที่นำเข้ายางล้อไทยในอัตรา 13.25-22.21% ระหว่างที่รอผลการสอบสวนในขั้นสุดท้าย
ที่มา: รอยเตอร์
https://ift.tt/3j9h72M
รถยนต์
Bagikan Berita Ini
0 Response to "สหรัฐฯ ยืนยันผลสอบ 'ไทย-เกาหลีใต้-ไต้หวัน' ทุ่มตลาดยางรถยนต์ ทำอุตฯ มะกันเสียหายหนัก - ผู้จัดการออนไลน์"
Post a Comment