Search

จอดรถตากแดด ระบายความร้อนในรถได้ยังไงบ้าง - ข่าวในวงการรถยนต์ | - Autospinn.com

หน้าร้อนเมืองไทย อุณหภูมิสูงสุดกว่า 44 องศา แค่เดินยังเหงื่อชุ่ม ไม่เว้นกระทั่งจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน ความร้อนระอุก็จะสะสมอยู่ในรถยนต์ เรามีวิธีระบายความร้อนในรถยนต์มาฝาก


จอดรถตากแดด ระบายความร้อนในรถได้ยังไงบ้าง

1. เปิดประตู-หน้าต่าง ระบายอากาศ

เปิดประตู หน้าต่างรถยนต์ทิ้งไว้ เพื่อระบายความร้อนที่อยู่ภายในรถ หลังจากนั้นให้ เปิด-ปิดประตูฝั่งคนขับหลายๆ ครั้ง เพื่อช่วยทำให้อากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น

2. ลดกระจกลงเล็กน้อย

เมื่อไม่สามารถหลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดดได้ แนะนำให้ลดกระจกรถยนต์ เอาไว้นิดหนึ่ง ช่วยทำให้อากาศถ่ายเทสะดวก และช่วยระบายอากาศภายในรถไม่ให้ร้อน

3. ติดฟิล์มกันความร้อน

ให้ติดฟิล์มที่กระจก รวมถึงฉนวนกันความร้อนบนหลังคารถ ช่วยป้องกันแสงแดดจากภายนอก ไม่ให้เข้ามาภายในรถยนต์ได้ในระดับหนึ่ง

จอดรถตากแดด ระบายความร้อนในรถได้ยังไงบ้าง อัปเดต

4. ใช้ม่านบังแดด หรือผ้าคลุมรถที่มีมาตรฐาน

ใช้ม่านบังแดดรถยนต์ ติดที่กระจกทุกบานไม่ว่าจะเป็นกระจกหน้า กระจกข้าง กระจกหลัง เลือกม่านบังแดดที่เข้ารูป สามารถติดหน้าได้เต็มบาน เพื่อกันให้แสงเล็ดลอดเข้ามาได้น้อยที่สุด ที่สำคัญควรเลือกม่านที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสีที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถ หรือจะใช้ผ้าคลุมรถที่มีมาตรฐาน คลุมรถได้ทั้งคัน สามารถสะท้อนแสงได้ 

การจอดรถตากแดด ทำให้เกิดความร้อนระอุภายในรถยนต์แล้ว ยังส่งผลเสียทำให้รถสีซีด เครื่องยนต์ได้รับความเสียหายรวมถึงอุปกรณ์ภายในรถเสื่อมสภาพ เพราะฉะนั้นหากมีความจำเป็นต้องจอดรถกลางแดด หรือมีสภาพอากาศที่ร้อนระอุควรป้องกันไม่ให้รถยนต์เกิดความเสียหาย 

บทความที่น่าสนใจ

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

Adblock test (Why?)

อ่านบทความและอื่น ๆ ( จอดรถตากแดด ระบายความร้อนในรถได้ยังไงบ้าง - ข่าวในวงการรถยนต์ | - Autospinn.com )
https://ift.tt/DSYU0ja
รถยนต์

Bagikan Berita Ini

0 Response to "จอดรถตากแดด ระบายความร้อนในรถได้ยังไงบ้าง - ข่าวในวงการรถยนต์ | - Autospinn.com"

Post a Comment

Powered by Blogger.