มาตรการ EV 3.5 รอรัฐบาลใหม่
ส่วนมาตรการสนับสนุนการใช้และผลิตรถอีวีที่เป็นชุดมาตรการต่อเนื่องจากมาตรการเดิม คือ มาตรการ EV 3.5 ที่มีทั้งการอุดหนุนส่วนลดให้กับผู้ซื้อรถอีวีคันละไม่เกิน 100,000 บาท รวมทั้งมาตรการสนับสนุนทางการเงินให้แก่บริษัทที่จะลงทุนในโรงงานผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์อีวีในประเทศไทย นั้น
แหล่งข่าว ระบุว่า จะต้องรอให้รัฐบาลใหม่เข้ามาพิจารณา โดยคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ด EV) เตรียมเสนอมาตรการนี้ ให้ครม.ชุดใหม่พิจารณาเห็นชอบ เพื่อเป็นมาตรการที่จะส่งเสริมการใช้และผลิตรถอีวีในประเทศไทย หลังจากมาตรการดังกล่าว เสนอไม่ทันรัฐบาลปัจจุบัน
เหตุผลความจำเป็นที่ต้องของบ
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 ได้รับทราบว่า ที่ประชุมครม. เมื่อต้นปี 2565 ได้รับทราบแนวทาง การดำเนินนโยบายสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ (EV3) และเห็นชอบในหลักการการจัดหาแหล่งงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566-2568 วงเงิน 40,000 ล้านบาท จากแหล่งงบประมาณที่เหมาะสม
โดยการขอใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 3,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินการมาตรการ EV 3 นั้น กรมสรรพสามิตได้รายงานว่า มีจำนวนผู้ประกอบอุตสาหกรรมและผู้นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าที่ ลงนามข้อตกลงเข้าร่วมมาตรการ รวม 12 ราย แบ่งเป็น ผู้ประกอบการรถยนต์ 9 ราย และผู้ประกอบการ รถจักรยานยนต์ 3 ราย
มีปริมาณของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่ขอรับสิทธิในปี 2565 รวมทั้งสิ้น 39,722 คัน แบ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า รวม 35,322 คัน และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า รวม 4,400 คัน โดยงบประมาณจำนวน 3,0000 ล้านบาท จากปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ดังกล่าว สามารถรองรับการดำเนินมาตรการ EV 3 ได้ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 หรือถึงเดือนกันยายน ปี 2566 เท่านั้น
สำหรับแหล่งงบประมาณที่ใช้ในการสนับสนุนมาตรการ EV3 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567-2568 นั้น คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ เห็นว่า ยังไม่สามารถนำเงินจากกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย และกองทุน เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน มาใช้ดำเนินมาตรการได้ เนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องขอบเขตและวัตถุประสงค์ ของการใช้เงินกองทุน
ดังนั้น จึงขอให้กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพสามิต พิจารณาเสนอขอรับการจัดสรร งบประมาณประจำปี พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ไปพลางก่อน โดยมีรายงานข่าวจากการะทรวงคลัง ระบุว่า เบื้องต้นกรมสรรพสามิต ประเมินว่าอาจจะต้องใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนรถยนต์ EV ที่จะมารับการอุดหนุนภายในปี 2566 นี้ด้วย
อ่านบทความและอื่น ๆ ( คลัง จ่อชง ครม. ทิ้งทวนจัดงบกลางอุดหนุนซื้อรถยนต์ EV - ฐานเศรษฐกิจ )https://ift.tt/Wm5UsgX
รถยนต์
Bagikan Berita Ini
0 Response to "คลัง จ่อชง ครม. ทิ้งทวนจัดงบกลางอุดหนุนซื้อรถยนต์ EV - ฐานเศรษฐกิจ"
Post a Comment