บอกต่อ 7 วิธีลดเบี้ยประกันรถยนต์ มีอะไรบ้าง - เรื่องเด่น - One2car.com - ข่าวยานยนต์

แน่นอนว่าเมื่อมีรถยนต์เป็นของตัวเองแล้ว ประกันรถยนต์ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่ต้องมี เพราะประกันรถยนต์นั้นจะคุ้มครองในเรื่องต่างๆ เมื่อเราเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่สิ่งนึงที่ต้องทำเมื่อมีประกันรถยนต์แล้วก็คือการจ่ายเบี้ยประกันทุกปี ซึ่งวันนี้เราก็มี 7 วิธีลดเบี้ยประกันรถยนต์ มาแนะนำให้ทุกคนได้ทราบกัน

---

เบี้ยประกันรถยนต์ คืออะไร?

เบี้ยประกันภัยรถยนต์ คือ เงินที่ต้องจ่ายให้กับบริษัทประกัน เพื่อเป็นการซื้อความคุ้มครองจากประกันภัยรถยนต์ ต้องบอกก่อนว่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์นั้น จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับแผนประกันรถยนต์ที่ผู้เอาประกันเลือกทำ และรวมไปถึงความเสี่ยงที่ไม่เท่ากัน ทั้งในเรื่องของอาชีพ อายุ และสุขภาพของผู้เอาประกันนั่นเอง

และแน่นอนว่าในปีต่อไป เราสามารถลดเบี้ยประกันรถยนต์ได้ ซึ่งวิธีการลดเบี้ยกันนั้น สามารถทำตามได้จากคำแนะนำข้างล่างนี้เลย

7 วิธีลดเบี้ยประกันรถยนต์ ได้ผลแน่นอน

1.เทียบประกันรถยนต์ของแต่ละบริษัท

ต้องยอมรับเลยว่าในปัจจุบันนี้ บริษัทประกันรถยนต์นั้นมีให้เห็นมากมายหลากหลายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเพื่อน คนรู้จัก หรือคนในครอบครัวต่างก็แนะนำบริษัทประกันรถยนต์ที่คิดว่าดีที่สุดมาให้ เพราะฉะนั้นในเมื่อบริษัทประกันรถยนต์เยอะแบบนี้เราก็สามารถนำเงื่อนไขต่างๆ ของแต่ละบริษัทมาเปรียบเทียบประกันรถยนต์ กันได้ ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อ เพื่อเป็นการประกาบการตัดสินใจว่าประกันแบบไหนที่เหมาะกับประเภทรถยนต์หรือการใช้งานของเรานั่นเอง

2.ประวัติดี ทำให้เบี้ยประกันลดลงหรือถูกลง

ประวันติดีในที่นี้หมายถึงการไม่มีประวัติขับรถชน หรือเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ในที่นี้คือเป็นอุบัติเหตุที่เราเป็นฝ่ายถูกเท่านั้น หรือไม่เคยมีการเคลมเกินที่กำหนด ก็สามารถขอส่วนลดจากบริษัทประกันได้ ซึ่งอัตราส่วนลดขึ้นอยู่กับประวัติการเคลมจะมีดังนี้

• ไม่มีการเคลมประกันรถ 1 ปี มีส่วนลดค่าเบี้ย 20 %

• ไม่มีการเคลมประกันรถ 2 ปี มีส่วนลดค่าเบี้ย 30 %

• ไม่มีการเคลมประกันรถ 3 ปี มีส่วนลดค่าเบี้ย 40 %

• ไม่มีการเคลมประกันรถ 4 ปี ลดค่าเบี้ยสูงสุด 50 %

3.ติดกล้องหน้ารถ หลังรถยนต์ ลดเบี้ยประกันได้

การติดกล้องหน้ารถ หลังรถยนต์ ถือเป็นวิธีที่ทำง่ายและปลอดภัยมากที่สุด การติดกล้องหน้ารถนั้นสามารถลดเบี้ยประกันได้ 5-10% เลยทีเดียว เพราะกล้องหน้ารถถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญเมื่อเราเกิดอุบัติบนท้องถนน ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่ หรือจะทำการต่อประกันรถยนต์ ก็สามารถรับส่วนลดตรงนี้เหมือนกัน

4.ทำประกันรถยนต์แบบระบุผู้ขับขี่

หากเป็นครอบครัวเล็กๆ การทำประกันรถยนต์แบบระบุผู้ขับขี่ ถือว่าเหมาะสมอย่างมาก โดยประกันรถยนต์ประเภทนี้จะเหมือนกับครัวที่มีสมาชิกไม่มาก อาจจะขับรถเป็นแค่ 1-2 คนเท่านั้น และยังเหมาะกับคนที่ไม่ชอบให้ใครยืมรถอีกด้วย เพราะประกันรถยนต์แบบระบุผู้ขับขี่นั้นสามารถระบุผู้ขับได้มากสุด 2 คนเท่านั้น และยังสามารถลดเบี้ยประกันภัยแบบระบุผู้ขับขี่ได้ ตั้งแต่ 5-20% ในการต่อประกันเลยทีเดียว โดยจะจะได้รับส่วนลด ตามอายุคนขับ

• 18-24 ปี รับส่วนลด 5%

• 25-35 ปี รับส่วนลด 10%

• 36-50 ปี รับส่วนลด 15%

• 50 ปีขึ้นไป รับส่วนลด 20%

5. เลือกซ่อมอู่แทนซ่อมห้าง ช่วยลดเบี้ยประกันได้

เมื่อรถของเรามีปัญหาแน่นอนว่าการเลือกซ่อมห้างหรือซ่อมศูนย์นั้น เบี้ยประกันย่อมแพงกว่าอยู่แล้ว แต่หากใครที่อยากให้เบี้ยประกันลดลง ก็ขอแนะนำให้ซ่อมอู่จะดีกว่า แต่การซ่อมอู่นั้นก็ต้องเลือกอู๋ที่ดีมีมาตารฐานด้วยเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นขอแนะนำให้เลือกซ่อมอู่ที่อยู่ในเครือบริษัทประกันจะดีกว่า เพื่อป้องกันการโดนโกงนั่นเอง

6.ลดทุนประกันความคุ้มครอง

หากเลือกวิธีลดทุนประกันคุ้มครองนั้น จะต้องดูด้วยว่าการใช้รถของเรานั้นเป็นแบบไหน หากใช้รถแบบไม่ระวัง เวลาเกิดอุบัติเหตุหนักประเมินแล้วไม่สามารถซ่อมได้ แล้วหากมีการคืนทุนประกันขึ้นมา ทุนประกันที่ได้มานั้นจะเพียงพอต่อการซื้อรถคันใหม่มั้ย ก็ควรจะพิจารณาด้ยเช่นกัน ซึ่งการลดประกันคุ้มครองเป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ในการลดเบี้ยประกันรถยนต์

7.ลดความคุ้มครองรถ

แน่นอนว่าประกันรถยนต์จะมีเรื่องของความคุ้มครองในส่วนต่างๆ อย่างเช่น รถหาย รถไฟไหม้ เป็นต้น ให้เราพิจารณาโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น หากคิดแล้วว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเราแน่นอน ก็ควรขอลดความคุ้มครองในส่วนนี้ลงได้ เบี้ยประกันก็จะถูกลงด้วยเช่นกัน หากใครที่ไม่อยากลดทุนประกันความคุ้มครอง ก็สามารถเลือกวิธีลดความคุ้มครองได้ หรือเลือกที่จะทำประกันชั้นอื่นที่ไม่ใช่ชั้น 1 นั่นเอง

ประกันรถยนต์ กับ พ.ร.บ. รถยนต์ ต่างกันยังไง?

พ.ร.บ. รถยนต์ คือประกันรถยนต์ภาคบังคับ ที่หากใครมีรถก็ต้องมี พ.ร.บ. รถยนต์ ด้วยเช่นกัน ซึ่ง  พ.ร.บ. รถยนต์ นี้จะคุ้มครองในส่วนของค่ารักษาพยาบาลต่างๆ ซึ่งวงเงินคุ้มครองที่ผู้ขับขี่จะได้รับจาก พ.ร.บ. รถยนต์นั้นจะมีการจ่ายเป็น 2 รูปแบบคือ

ค่าเสียหายเบื้องต้น โดยไม่ต้องรอพิสูจน์ความผิด

• ค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บ สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท

• กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร 35,000 บาท

ค่าเสียหายส่วนเกิน กรณีพิสูจน์แล้วว่าไม่ได้เป็นฝ่ายผิด

• ค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บ สูงสุดไม่เกิน 80,000 บาท

• กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท

• ค่าชดเชยรายวัน 200 บาทต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 20 วัน (กรณีที่ต้องพักฟื้นในโรงพยาบาล)

• จำนวนเงินรวมทั้งหมดที่จ่ายได้ รวมกันสูงสุดไม่เกิน 304,000 บาท

แต่สำหรับประกันรถยนต์นั้น จะมีให้เลือกหลายประเภทคือ ประกันชั้น 1 ประกันชั้น 2+ ประกันชั้น 2 ประกันชั้น 3+ ประกันชั้น 3 โดยประกันรถยนต์จะมีเงื่อนไขที่ไม่เหมือนกันของแต่ละบริษัทประกัน แต่ประกันรถยนต์จะสามารถเลือกได้ว่าอยากให้คุ้มครองแบบไหน อย่างเช่น ถ้าอยากให้คุ้มครองทั้งเราและคู่กรณี ก็เลือกใช้ประกันชั้น 1 แต่ถ้าคุ้มครองแค่คู่กรณี ก็เลือกใช้ ประกันชั้นอื่นๆ ได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับการใช้รถของเราด้วยเช่นกัน

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

Adblock test (Why?)

อ่านบทความและอื่น ๆ ( บอกต่อ 7 วิธีลดเบี้ยประกันรถยนต์ มีอะไรบ้าง - เรื่องเด่น - One2car.com - ข่าวยานยนต์ )
https://ift.tt/Ks7w8JR
รถประกัน

Bagikan Berita Ini