ดูเหมือนจะอวยกันอย่างออกหน้าออกตา แต่ยอดขายของ Toyota Yaris Ativ Toyota Veloz และ Toyota Corolla Cross ที่นำโด่งแซงหน้าคู่แข่งมานานหลายเดือน หรือบางรุ่นก็นำยาวข้ามภพข้ามชาติอย่าง Toyota Fortuner มีปล่อยให้ MU-X แซงขึ้นหน้าแค่แวบเดียวเท่านั้น แล้วพี่จูนก็กลับมานำยาวๆ ต่อไป แม้จะมีคู่แข่งที่ขับได้ดีกว่าอย่าง Ford Everest แต่รถจากแบรนด์มะกันก็ทำยอดขายได้แค่อันดับที่สาม ใครที่มี Fortuner อยู่ในครอบครองแล้วไปลอง Everest ก็จะรู้สึกได้ว่า PPV SUV ของ Ford รุ่นนี้จูนอะไรต่อมิอะไรหลายๆ อย่างให้ทำงานผสมผสานกันได้ดีเหลือกำลังลาก โดยเฉพาะช่วงล่าง ถ้าแก้เรื่องกุ๊กกิ๊กจุกจิกกวนใจซึ่งเกิดขึ้นกับรถบางคันไปได้ ยอดขายของ Everest น่าจะขยับเข้าใกล้กับอันดับสองอย่าง MU-X โดยไม่ยากเย็นนัก เพราะรถค่ายตรีเพรชนั้นก็เจ๋งดีอยู่ แต่ทุกประตูที่เปิดออกมานั้น Ford Everest ขับได้เหนือกว่าชัดเจน อันนี้ก็อยู่ที่ความชอบ คนที่สอย Ford ส่วนใหญ่ชอบความหล่อ อุปกรณ์ที่ให้ และความนวลของช่วงล่างกับพวงมาลัย โดยไม่สนว่ารถจะจุกจิกกวนใจหรือเปล่า แต่ Everest ก็เป็นรถที่พยายามทำทุกอย่างให้ออกมาดูดี แล้วตามเก็บในจุดที่ลูกค้าบางรายพบปัญหา อย่างที่บอกว่าถ้าชอบก็จัดเพราะไม่ได้เป็นกันทุกคัน การนำระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาใช้ในเกือบทุกจุดของรถอาจต้องเผชิญกับอาการบางอย่างที่ไม่พึงประสงค์ แต่การขับของ Everest Wildtrak นั้นขึ้นแป้นเบอร์หนึ่งรถ PPV ที่ขับดีสุด แต่ยังทำยอดได้แค่อันดับที่สามเท่านั้นเอง!
Toyota Motor Thailand รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤษภาคม 2566 ด้วยยอดขาย 65,088 คัน เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งเดินหน้าต่อเนื่อง ขายดิบขายดี ด้วยตัวเลขยอดขาย 25,985 คัน เติบโตถึง 29.4% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีการชะลอตัวขายไม่ค่อยดีเท่าที่ควร โดยมีตัวเลขยอดขาย 39,103 คัน ลดลง 12.4% รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนต์นี้ หล่นหนักที่ 27,323 คัน ลดลงถึง 19.2%
ตลาดรถยนต์เดือนพฤษภาคม 2566 มีปริมาณการขายที่ 65,088 คัน เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งเป็นเซกเมนต์สำคัญที่ผลักดันการเจริญเติบโตของตลาดรถยนต์เดือนนี้ที่ 29.4% ด้วยยอดขาย 25,985 คัน ในขณะที่รถเพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวต่อเนื่องที่ 12.4% ด้วยยอดขาย 39,103 คัน ในส่วนของตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ชะลอตัวเช่นกันที่ 19.2% และยอดขาย 27,323 คัน เป็นผลมาจากการชะลอการตัดสินใจซื้ออย่างต่อเนื่องของภาคธุรกิจ และภาคประชาชน เพื่อรอความชัดเจนทางด้านนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐ ในขณะที่ตลาดรถยนต์นั่งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ECO Car มีอัตราการเจริญเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเดินทางที่เป็นส่วนตัวของประชาชนภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด
ตลาดรถยนต์ในเดือนมิถุนายนยังมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง จากความผันผวนทางเศรษฐกิจที่ยังดำเนินต่อไป รวมทั้งความมั่นใจของผู้บริโภคที่ยังไม่ดีขึ้น ความไม่ชัดเจนทางการเมือง ไม่รู้ว่าใครจะได้เข้ามาบริหารงานต่อจากลุงตู่ ตลอดจนความเข้มงวดของสถาบันการเงินที่มีความกังวลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค อันส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการผ่อนชำระของประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ที่ต้องการความคล่องตัวทางเศรษฐกิจเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนพฤษภาคม 2566
ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 65,088 คัน เพิ่มขึ้น 0.5%
อันดับที่ 1 Toyota 21,296 คัน ลดลง 4.0% ส่วนแบ่งตลาด 32.7%
อันดับที่ 2 Isuzu 13,281 คัน ลดลง 15.6% ส่วนแบ่งตลาด 20.4%
อันดับที่ 3 Honda 6,697 คัน เพิ่มขึ้น 33.0% ส่วนแบ่งตลาด 10.3%
ตลาดรถยนต์นั่ง
ปริมาณการขาย 25,985 คัน เพิ่มขึ้น 29.4%
อันดับที่ 1 Toyota 8,266 คัน เพิ่มขึ้น 43.2% ส่วนแบ่งตลาด 31.8%
อันดับที่ 2 Honda 4,415 คัน เพิ่มขึ้น 38.4% ส่วนแบ่งตลาด 17.0%
อันดับที่ 3 Mitsubishi 1,506 คัน ลดลง 27.5% ส่วนแบ่งตลาด 5.8%
ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์
ปริมาณการขาย 39,103 คัน ลดลง 12.4%
อันดับที่ 1 Isuzu 13,281 คัน ลดลง 15.6% ส่วนแบ่งตลาด 34.0%
อันดับที่ 2 Toyota 13,030 คัน ลดลง 20.6% ส่วนแบ่งตลาด 33.3%
อันดับที่ 3 Ford 2,993 คัน เพิ่มขึ้น 32.1% ส่วนแบ่งตลาด 7.7%
ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และรถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 27,323 คัน ลดลง 19.2%
อันดับที่ 1 Isuzu 12,131 คัน ลดลง 14.5% ส่วนแบ่งตลาด 44.4%
อันดับที่ 2 Toyota 10,205 คัน ลดลง 26.6% ส่วนแบ่งตลาด 37.3%
อันดับที่ 3 Ford 2,993 คัน เพิ่มขึ้น 32.1% ส่วนแบ่งตลาด 11.0%
ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง PPV SUV
(ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,896 คัน
อันดับที่ 1 Isuzu MU-X 2,076 คัน
อันดับที่ 2 Toyota Fortuner 1,568 คัน
อันดับที่ 3 Ford Everest 707 คัน
อันดับที่ 4 Mitsubishi Pajero Sport 460 คัน
อันดับที่ 5 Nissan Terra 85 คัน
ตลาดรถกระบะ Pure Pick up
ปริมาณการขาย 22,427 คัน ลดลง 23.3%
อันดับที่ 1 Isuzu D-MAX 10,055 คัน ลดลง 22.0% ส่วนแบ่งตลาด 44.8%
อันดับที่ 2 Toyota Hilux REVO 8,637 คัน ลดลง 27.2% ส่วนแบ่งตลาด 38.5%
อันดับที่ 3 Ford Ranger 2,286 คัน เพิ่มขึ้น 24.8% ส่วนแบ่งตลาด 10.2%
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2566
ตลาดรถยนต์รวม
ปริมาณการขาย 341,691 คัน ลดลง 4.9%
อันดับที่ 1 Toyota 115,982 คัน ลดลง 4.2% ส่วนแบ่งตลาด 33.9%
อันดับที่ 2 Isuzu 73,776 คัน ลดลง 17.8% ส่วนแบ่งตลาด 21.6%
อันดับที่ 3 Honda 39,067 คัน เพิ่มขึ้น 9.2% ส่วนแบ่งตลาด 11.4%
ตลาดรถยนต์นั่ง
ปริมาณการขาย 123,754 คัน เพิ่มขึ้น 6.4%
อันดับที่ 1 Toyota 43,630 คัน เพิ่มขึ้น 32.2% ส่วนแบ่งตลาด 35.3%
อันดับที่ 2 Honda 25,984 คัน ลดลง 4.0% ส่วนแบ่งตลาด 21.0%
อันดับที่ 3 Mitsubishi 8,227 คัน ลดลง 9.7% ส่วนแบ่งตลาด 6.6%
ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์
ปริมาณการขาย 217,937 คัน ลดลง 10.3%
อันดับที่ 1 Isuzu 73,776 คัน ลดลง 17.8% ส่วนแบ่งตลาด 33.9%
อันดับที่ 2 Toyota 72,352 คัน ลดลง 17.8% ส่วนแบ่งตลาด 33.2%
อันดับที่ 3 Ford 16,902 คัน เพิ่มขึ้น 39.2% ส่วนแบ่งตลาด 7.8%
ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และรถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 155,613 คัน ลดลง 18.2%
อันดับที่ 1 Isuzu 67,533 คัน ลดลง 18.4% ส่วนแบ่งตลาด 43.4%
อันดับที่ 2 Toyota 59,741 คัน ลดลง 22.0% ส่วนแบ่งตลาด 38.4%
อันดับที่ 3 Ford 16,902 คัน เพิ่มขึ้น 39.2% ส่วนแบ่งตลาด 10.9%
ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง
(ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 28,067 คัน
อันดับที่ 1 Toyota Fortuner 10,201 คัน
อันดับที่ 2 Isuzu MU-X 9,946 คัน
อันดับที่ 3 Ford Everest 5,106 คัน
อันดับที่ 4 Mitsubishi Pajero Sport 2,290 คัน
อันดับที่ 5 Nissan Terra 524 คัน
ตลาดรถกระบะ Pure Pick up
ปริมาณการขาย 127,546 คัน ลดลง 22.6%
อันดับที่ 1 Isuzu D-MAX 57,587 คัน ลดลง 23.5% ส่วนแบ่งตลาด 45.1%
อันดับที่ 2 Toyota Hilux REVO 49,540 คัน ลดลง 23.3% ส่วนแบ่งตลาด 38.8%
https://ift.tt/g3TFfnu
รถยนต์
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ฟอรจนเนอรโดนมวเอกซแซง เอทฟ ยนหนงตวตงพโต สรปตวเลขยอดขายรถยนตเดอนพฤษภาคม 2566 - ไทยรฐ"
Post a Comment