เทียบสเปค 3 รถยนต์อเนกประสงค์ (เอ็มพีวี) 7 ที่นั่ง ปี 2022 - PPTVHD36

เปิดประเดิมในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 นอกเหนือจากความร้อนแรงของ รถยนต์ไฟฟ้า ที่มีกระการมอบส่วนลดจากรัฐบาลกระทั่งทำให้มีผู้คนสนใจอย่างถล่มทลายในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ที่สิ้นสุดลงไปหมาด ๆ ก็ต้องเป็นตลาดรถยนต์ในกลุ่ม รถยนต์อเนกประสงค์ (เอ็มพีวี) ขนาด 7 ที่นั่ง ซึ่งร้อนแรงไม่แพ้กัน

PPTV Online ได้รวบรวมข้อมูลของรถยนต์ในกลุ่มดังกล่าวเพื่อเปรียบเทียบสำหรับให้ผู้บริโภคประกอบการตัดสินใจในรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้

เทียบสเปค 3 รถยนต์อเนกประสงค์ (เอ็มพีวี) 7 ที่นั่ง ปี 2022

โหมโรงตั้งแต่เดือน ก.พ. ด้วยพี่ใหญ่ โตโยต้า ที่เปิดตัว Toyota Veloz วางตำแหน่งเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ (เอ็มพีวี) 7 ที่นั่ง โดยชูเอาความกว้างขวางสะดวกสบายซึ่งเคลมไว้ว่าใขนาดใหญ่เทียบเท่ากับรถยนต์ในกลุ่ม C-Segment เจาะกลุ่มความต้องการของผู้ใช้รถที่เป็นครอบครัว ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน และกิจกรรมยามพักผ่อน รวมถึงตอบสนองความต้องการของกลุ่มธุรกิจ SME สมัยใหม่

รายละเอียดของ Toyota Veloz

เครื่องยนต์ Dual VVT-i ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 106 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ CVT
ประหยัดน้ำมันสูงสุด 17.9 กิโลเมตร/ ลิตร
พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ปรับได้ 4 ทิศทาง สูง-ต่ำ และ ใกล้-ไกล
มาตรวัดแบบเรืองแสง พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ แบบจอสี TFT ขนาด 7 นิ้ว มีดีไซน์ให้เลือก 4 แบบ
เบาะหนังสังเคราะห์ และผ้าสีทูโทน (ดำและเทา) ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา
ไฟสร้างบรรยากาศบริเวณคอนโซลกลาง และแผงข้างประตูด้านหน้า
กล่องเก็บของด้านท้าย
อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย
เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว (เฉพาะรุ่น Premium) รองรับ Apple CarPlay Android Auto และ Bluetooth
ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ
ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า 12V บริเวณกล่องเก็บของ และเบาะนั่งแถวที่ 3
ระบบ Smart Entry และ Push Start
ช่องต่อ USB 2 ช่อง สำหรับผู้โดยสารแถว 2
กุญแจ Remote พร้อมระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System) (เฉพาะรุ่น Premium)
ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยดึงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert (LDA) With Steering Assist) (เฉพาะรุ่น Premium)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams) (เฉพาะรุ่น Premium)
ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว (Front Departure Alert) (เฉพาะรุ่น Premium)
ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งแบบผิดวิธี (Pedal Misoperation Control) (เฉพาะรุ่น Premium)
กล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor) (เฉพาะรุ่น Premium)
กล้องมองภาพขณะถอยหลัง (เฉพาะรุ่น Smart)
ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor)
สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Brake Signal)
ระบบควบคุมการทรงตัว (Vehicle Stability Control)
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill-start Assist Control)
ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านด้านข้าง)

แห่แลกเงินเยนคึกคัก หลังค่าเงินอ่อนตัวต่ำสุดในรอบ 20 ปี

Toyota Veloz มาพร้อมกับแพ็กเกจขยายการรับประกัน 5 ปี หรือ 150,000 กม. พร้อมฟรีค่าแรงเช็กระยะถึง 100,000 กม. โดยมี 2 รุ่น ย่อยพร้อมราคาจำหน่ายดังนี้

Toyota Veloz รุ่น Smart ราคา 795,000 บาท

Toyota Veloz รุ่น Premium ราคา 875,000 บาท

ตามมาด้วย บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ได้มีการปรับโฉมรถยนต์อเนกประสงค์ (เอ็มพีวี) ในรุ่น ซูซูกิ เอ็กซ์แอล 7 (SUZUKI XL7) ก่อนเข้างานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ซึ่งได้มีการเติมสีสันใหม่ สไตล์ทูโทน ด้วยหลังคาสีดำตัดกับสีตัวรถ และกระจกมองข้างสีดำ ชูจุดขายด้านสมรรถนะการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ภายใต้แนวคิด THINK XL ตอบสนองทุกฟังก์ชันการใช้งาน

รายละเอียดของ SUZUKI XL7

ไฟหน้า LED สามารถปรับระดับองศาของไฟต่ำได้
ไฟ Daytime Running Light และไฟตัดหมอกหน้า
ไฟท้าย LED และไฟเบรกแนวตั้ง
ล้ออะลูมิเนียมอัลลอยแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว
ราวหลังคา พร้อมรองรับการบรรทุกสัมภาระ
มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงผลข้อมูลสำคัญของตัวรถ
หน้าจอสัมผัสขนาด 10 นิ้ว พร้อมฟังก์ชันเชื่อมต่อ Bluetooth การเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน Apple CarPlay, Android Auto
ช่องเชื่อมต่อ USB และ HDMI ที่บริเวณคอนโซลหน้า และช่องจ่ายไฟสำรอง 12V 3 ตำแหน่ง
เบาะนั่งแถวที่สองปรับพับแยกเบาะแบบ 60:40 สามารถเลื่อนสไลด์ได้ 240 มิลลิเมตร
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ทรง D-Shape พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและการสั่งการสมาร์ตโฟน
ระบบ Keyless Push Start และระบบ Keyless Entry
กระจกมองข้างที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า
เครื่องยนต์รหัส K15B ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด
แพลตฟอร์ม HEARTECT เทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของซูซูกิ
ความสูงใต้ท้องรถ 200 มม.
ระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า
ระบบเบรก ABS
ระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรก
ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน
จุดยึดเบาะสำหรับเด็ก ISOFIX และ Top tether
กล้องมองภาพพร้อมเซ็นเซอร์
ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer

SUZUKI XL7 มาพร้อมการรับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กม. โดยมีกับแพ็กเกจ Suzuki Care Protection ขยายการรับประกัน 5 ปี หรือ 150,000 กม. พร้อมขยายการให้บริการช่วยเหลือ 24 ชั่วโมงเพิ่มขึ้นอีก 2 ปี ราคาแพคเกจ 7,900 บาท

SUZUKI XL7 ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 779,000-7.89 แสนบาท

2 เดือนแรก ส่งออกมะม่วงไทยโต 15% แรงหนุนตลาด FTA

ปิดท้ายที่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดตัว มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ (Mitsubishi Xpander) ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 มีการปรับเปลี่ยนทั้งดีไซน์ภายนอกและดีไซน์ภายในรวมถึงการการติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผันต่อเนื่องรุ่นใหม่ Eco-Dynamic CVT ภายใต้คอนเซป ‘Expand Your Advanced Life’

รายละเอียดของ Mitsubishi Xpander

ด้านหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Advanced Dynamic Shield ที่บ่งบอกถึงพละกำลังและความมั่นใจ
ด้านหลังดีไซน์ใหม่ พร้อมติดตั้งกันชนท้ายและแผ่นกันกระแทกแบบใหม่ ดีไซน์แบบ 3 มิติ ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่
ไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์รูปตัว T ติดตั้งทั้งอยู่กับตัวรถ สว่างขึ้น 20%
ห้องโดยสารดีไซน์ใหม่แบบ Horizontal Axis
พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ ทรงสปอร์ต กระชับมือ
เบาะนั่งออกแบบใหม่มาที่มาพร้อมคุณสมบัติกันความร้อนหรือ Heat Guard
ห้องโดยสารดีไซน์ใหม่แบบสีทูโทน สีน้ำตาล-ดำ ใช้วัสดุหนังสังเคราะห์หุ้มเบาะนั่ง และมีการเย็บตะเข็บจริงสำหรับที่พักแขน และแผงประตูข้าง
ดีไซน์คอนโซลกลางใหม่ ที่มีถาดเก็บของแบบเปิดขนาดใหญ่ ที่พักแขนที่สามารถเก็บขวดน้ำขนาด 600 มิลลิลิตร
ช่อง USB 2 ช่องสำหรับเบาะแถวที่สอง แบบ Type-A และ Type-C พร้อมช่องจ่ายกระแส ไฟ DC ขนาด 12 โวลต์ บริเวณคอนโซลหน้าและเบาะนั่งแถวที่สาม
หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว พร้อมรองรับระบบ Bluetooth Apple CarPlay, Android Auto
ระบบปรับอากาศแบบดิจิทัล พร้อมฟังก์ชัน Max Cool และระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลังแบบแยกส่วน
หน้าจอระบบสัมผัส รุ่นใหม่ ขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับการใช้งานแอปเปิล คาร์เพลย์
ความสูงใต้ท้องรถ 220 มม.
ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผันต่อเนื่องรุ่นใหม่ Eco-dynamic CVT
ระบบเบรกมือควบคุมด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติพร้อมระบบ Brake Auto Hold
ระบบกันสะเทือนแบบใหม่ โดยที่ด้านหน้ามีการติดตั้งเหล็กกันโคลงและเหล็กค้ำหัวโช้ค ด้านหลังมีการปรับเปลี่ยนขนาดของโช้คอัพให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า (2 จุด)
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC)
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD)
ระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัย (Cruise Control
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCL)
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA)
กล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอด

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ มาพร้อมกับการรับประกัน 5 ปี หรือ 100,000 กม. พร้อมฟรีค่าแรงเช็กระยะถึง 100,000 กม. และประกันภัยชั้น 1 ฟรี โดยมี 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น GLS-LTD มีราคาจำหน่ายที่ 799,000 บาท และ รุ่น GT มีราคาจำหน่ายที่ 895,000 บาท

ยอดขายรถยนต์ในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ (เอ็มพีวี) ขนาด 7 ที่นั่ง ไตรมาส 1/2565 มียอดขายรวมอยู่ที่ 5,582 คัน เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 4,452 คัน โดย 3 อันดับขายดีของรถยนต์ในกลุ่มดังกล่าวไตรมาส 1/2565 คือ 1.มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ (Mitsubishi Xpander) จำนวน 3,079 คัน 2.โตโยต้า เวลอซ (Toyota Veloz) จำนวน 1,239 คันและ 3.ซูซูกิ เอ็กซ์แอล 7 (Suzuki XL7) จำนวน 569 คัน