Search

2565 จับตาตลาดรถมือสอง จุดเปลี่ยนสู่โลกออนไลน์ - ผู้จัดการออนไลน์



ธุรกิจรถยนต์มือสอง เป็นหนึ่งในธุรกิจของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่น่าจับตามอง เพราะนอกจากจะมีมูลค่าตลาดสูงมากแล้ว ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจเครือข่ายอื่นๆ ในระบบ ได้แก่ ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์, ธุรกิจประกันภัย, ธุรกิจซ่อมสีรถยนต์, ธุรกิจอะไหล่ยนต์, ธุรกิจประมูลรถยนต์ และอื่นๆ อีกมากมาย ที่มีผลต่อระบบหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ และก่อให้เกิดการจ้างงานภายในประเทศในธุรกิจที่หลากหลาย ซึ่งแม้จะมีสถานการณ์โควิดที่ส่งผลกับหลายๆ ธุรกิจแต่ก็ได้สร้างมิติใหม่ให้กับตลาดรถมือสอง จากความต้องการใช้รถยนต์ส่วนตัวเพิ่มขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ และเป็นที่จับตามองถึงทิศทางของตลาดรถยนต์มือสองว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในปี 2565

พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ
นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ กูรูด้านรถยนต์และผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์มือสอง กล่าวถึง ภาพรวมตลาดรถยนต์มือสองในปีที่ผ่านมาว่า แม้จะมีผลกระทบจากสถานการณ์โควิด แต่กลับทำให้เกิดความต้องการรถยนต์ส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ผู้ประกอบการรถยนต์มือสอง ได้มีการพัฒนาและยกระดับการขาย การให้บริการทำให้ลูกค้ามั่นใจและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ซึ่งทิศทางตลาดรถยนต์มือสองในปีหน้า 2565 จะยังมีแนวโน้มที่ดี ผู้บริโภคยังคงมีความต้องการซื้ออย่างต่อเนื่อง เพราะได้เปรียบเรื่องราคาเมื่อเทียบกับรถใหม่ อีกทั้งรถยนต์มือสองในปัจจุบันมีอายุการใช้งานไม่มาก ยังอยู่ในเงื่อนไขการรับประกันทำให้ลูกค้ามีทางเลือกและมั่นใจในการซื้อรถมือสองมากขึ้น


สิ่งที่น่าจับตามองคือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เข้ามามีบทบาทในการทำธุรกิจตลาดรถยนต์มือสองมากขึ้น ทั้งในด้านของข้อมูลและช่องทางการขาย รถยนต์มือสองที่นำเข้าสู่ตลาดจะถูกคัดสรร และมีคุณภาพมากกว่าเดิม ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบราคาได้ด้วยตัวเอง ในขณะที่ผู้ประกอบการใหญ่มีการเปลี่ยนมาใช้การขายทางแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้ง Facbook Youtube Line และ Website โดยปัจจุบันส่วนมากผู้ประกอบการจะเน้นการทำตลาดทาง Facebook ของตนเองเป็นหลัก ส่วนแพลตฟอร์มออนไลน์ในรูปแบบของ Listing ที่ลงประกาศขายนั้นได้รับความนิยมน้อยลงแต่ก็ยังคงมีใช้อยู่ เช่น Kaidee, One2Car และ Taradrod ที่มีความพร้อมทั้งด้านเงินทุนและบุคลากร มีการปรับตัว และพัฒนารูปแบบการขาย เข้าสู่ระบบออนไลน์มากขึ้น

ภิญโญ ธนวัชรภรณ์
ซึ่งสอดคล้องกับนายภิญโญ ธนวัชรภรณ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถใช้แล้ว ที่ได้กล่าวถึงพฤติกรรมผู้บริโภคในช่วงโควิด ว่าชีวิตติดออนไลน์มากขึ้น และแนะนำให้ผู้ประกอบการปรับตัว วางแผนการตลาดอย่างรัดกุม และชี้ให้เห็นว่าการทำตลาดออนไลน์เป็นเรื่องสำคัญ สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในการเลือกซื้อรถได้และยังเป็นเครื่องมือในการสร้างแบรนด์ เพิ่มมูลค่าของสินค้าและบริการ รวมทั้งสร้างความมั่นใจและน่าเชื่อถือให้กับผู้ประกอบการได้ด้วย


นายพัฒนเดชยังกล่าวถึงการแข่งขันในปี 2565 ว่าจะมีความรุนแรงมากขึ้น เพราะผู้ประกอบการเดิมต้องแข่งขันทั้งในเรื่องของตัวสินค้าที่ต้องคัดคุณภาพที่ดีมากขึ้นและช่องทางในการทำตลาด เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ในระหว่างผู้ประกอบการเองก็จะมีการแบ่งกันชัดเจนจะเห็นความแตกต่างมากขึ้น ในขณะที่ผู้ประกอบการใหม่ที่เข้ามาโดยเน้นการทำตลาดแบบออนไลน์เป็นหลัก เช่น Carsome, Car24 และ Carro จะได้เปรียบในเรื่องของเงินทุน แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ได้มาตรฐาน ประสบการณ์การทำตลาดแบบออนไลน์ จะทำให้ตลาดมีความดุเดือดมาก ซึ่งคงต้องจับตาดูว่าจะสามารถทำให้ประสบความสำเร็จอย่างที่ได้เคยทำไว้ในต่างประเทศได้หรือไม่


“ตลาดรถยนต์มือสองว่า มีมูลค่าประมาณ 75,000,000,000 (คำนวณจากจำนวนรถ 1.5 ล้านคัน คันละ 500,000 บาท) ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับตลาดรถยนต์มือสอง คือเรื่องความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการ สภาพรถและราคา รวมไปจนถึงนโยบายการจัดสินเชื่อของสถาบันการเงินและนโยบายภาครัฐทั้งนี้พบว่าผู้นำในตลาดรถยนต์มือสอง จะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มียอดขายเดือนละ 100 คันขึ้นไป มีเงินทุนเพียงพอ มีรถยนต์ในสต๊อกจำนวนมากเพียงพอให้ลูกค้าเลือกตามความต้องการ มีบุคลากรที่ชำนาญ และที่สำคัญคือมีพันธมิตรเครือข่ายธุรกิจและสถาบันการเงิน สนับสนุนช่วยเหลือในการทำธุรกิจ”


ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ในปี 2565 ราคารถยนต์มือสองยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อเนื่องจากกำลังซื้อที่เริ่มกลับมา แม้จะมีปริมาณรถยึดที่ทยอยเข้ามาตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังปี 2564 จะเป็นปัจจัยฉุดดึงราคาอยู่ก็ตาม

โดยการซื้อขายรถมือสองของไทยจะเปลี่ยนรูปแบบเป็นออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลานประมูลออนไลน์ เว็บประกาศซื้อขายรถ และ Social Commerce เช่น Facebook รวมถึงสตาร์ทอัพแพลตฟอร์มซื้อขายรถออนไลน์ โดยมีโอกาสที่ธุรกิจสตาร์ทอัพแพลตฟอร์มซื้อขายรถมือสองออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในหลายประเทศจะมีบทบาทมากขึ้นในตลาดรถมือสองของไทยในอนาคต เนื่องจากสอดรับกับผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่ไม่มีความชำนาญในการซื้อขายรถมือสองได้ดี ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ด้วยระดับเงินลงทุนที่มีอยู่จำนวนมากของสตาร์ทอัพแพลตฟอร์มออนไลน์ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ หากสามารถนำมาพัฒนาเทคโนโลยีและระบบในการตรวจสอบพร้อมสร้างมาตรฐานคุณภาพรถ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทั้งระบบให้เกิดการซื้อขายรถมือสองในราคาที่ดีและเหมาะสมกับคุณภาพ ตลอดจนการทำการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ ก็จะเป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้จำนวนคนเข้ามาใช้บริการซื้อขายรถมือสองในแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต


ทั้งนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้สรุปว่าตลาดรถยนต์มือสองไทยหลังโควิดมีโอกาสปรับราคาเพิ่มขึ้นได้แต่ไม่มาก เพราะอาจมีปริมาณรถยึดเข้าสู่ตลาดอีกมากในอนาคต ขณะที่รูปแบบการซื้อขายมีแนวโน้มจะพัฒนาไปสู่การใช้รูปแบบออนไลน์มากขึ้นในระยะยาวเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดและธุรกิจเองก็มีการพัฒนาขึ้นปิดจุดอ่อนในอดีต นอกจากนี้การมาของรถยนต์ BEV จะเป็นอีกปัจจัยที่ผู้ประกอบการต้องเตรียมวางแผนรับมือ แม้ในช่วงแรกจะยังไม่กระทบกับรถยนต์มือสองที่เป็นรถใช้น้ำมันมากนัก เนื่องจากรถยนต์ BEV ยังไม่เป็นที่นิยมในตลาดส่วนใหญ่ แต่เมื่อตลาดรถยนต์ BEV มือหนึ่งมีปริมาณเพิ่มขึ้นและเป็นที่ยอมรับในตลาด ย่อมส่งผลกระทบกับความต้องการรถมือสองที่ใช้น้ำมันในอนาคตได้ ทำให้เมื่อถึงเวลานั้น การบริหารสต๊อกรถยนต์ที่ใช้พลังงานประเภทต่างๆ เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณา โดยผู้ประกอบการในกรุงเทพฯ และปริมณฑลน่าจะได้รับผลกระทบและต้องปรับตัวก่อนผู้ประกอบการในต่างจังหวัด เนื่องจากน่าจะเป็นตลาดที่รถยนต์ BEV มีการเติบโตที่สูงกว่า

Adblock test (Why?)

อ่านบทความและอื่น ๆ ( 2565 จับตาตลาดรถมือสอง จุดเปลี่ยนสู่โลกออนไลน์ - ผู้จัดการออนไลน์ )
https://ift.tt/32mWxpm
รถยนต์

Bagikan Berita Ini

0 Response to "2565 จับตาตลาดรถมือสอง จุดเปลี่ยนสู่โลกออนไลน์ - ผู้จัดการออนไลน์"

Post a Comment

Powered by Blogger.