น้ำท่วมรถ เคลมประกันได้หรือไม่? - ช่อง 7

ปัญหาฝนตก น้ำท่วม ยังเป็นปัญหาปวดหัวของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ หลายคนสงสัย ซื้อประกันภัยรถยนต์ไว้ แต่จะเข้าข่ายคุ้มครองกรณีน้ำท่วม หรือเคลมเงินประกันได้หรือไม่ ขับรถไปแล้วน้ำท่วมเสียหาย ประกันรับเคลมหรือไม่ ต้องทำอย่างไร ติดตามกับคุณเจษฎา อุปนิ

ขั้นตอนแรก ตรวจดูความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจที่เราต่ออายุไว้ทุกปีกันก่อนว่า ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติด้วยหรือไม่? ส่วนใหญ่ประกันภัยชั้น 1 จะครอบคลุม ส่วนประกันภัยชั้น 2+ 3+ ขึ้นอยู่กับบางแพ็กเกจ

เงื่อนไขการเคลมประกันเมื่อน้ำท่วมรถ
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ไม่ใช่น้ำท่วมรถแล้วสามารถเคลมประกันได้ทั้งหมด เนื่องจากประกันภัยมีเงื่อนไขในการเคลมประกันอยู่ แล้วน้ำท่วมแบบไหน ประกันจ่าย หรือไม่จ่ายบ้าง?

เหตุน้ำท่วมรถที่บริษัทประกันจะจ่ายชดเชยให้ จะมีเงื่อนไขว่า จะต้องไม่เกิดจากความประมาทของเราเอง หมายความว่า ผู้ขับขี่ต้องไม่ตั้งใจที่จะนำรถไปในที่ที่เสี่ยงภัย เช่น มองเห็นอยู่แล้วว่าถนนข้างหน้านั้นมีน้ำท่วมขังอย่างหนัก มีการติดป้ายแจ้งเตือน แต่คุณก็ยังเลือกที่จะขับรถฝ่าเข้าไป นั่นหมายความว่า น้ำได้ท่วมรถที่เกิดจากความประมาทของผู้ขับด้วย ส่วนเหตุน้ำท่วมไม่ได้เกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่เอง เช่น กรณีขับรถท่ามกลางฝนตกหนัก แล้วน้ำก็ค่อย ๆ เอ่อล้นจนท่วมถนน ทำให้น้ำท่วมรถได้รับความเสียหาย หรือถ้าจอดอยู่เฉย ๆ ค้างคืน แล้วรุ่งขึ้นน้ำกลับท่วมจนได้รับความเสียหาย ลักษณะนี้จะเข้าข่ายของการเคลมประกัน โดยบริษัทประกันจะชดเชยค่าซ่อมแซมจากน้ำท่วมรถให้ "ตามวงเงินประกันและเงื่อนไขในสัญญา"

การคุ้มครองน้ำท่วมรถ
แบบที่ 1 การสูญเสียโดยสิ้นเชิง
กรณีที่น้ำท่วมมิดคัน หรือท่วมเกินช่วงคอนโซลหน้า ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับทั้งห้องโดยสาร บริษัทประกันประเมินว่า ไม่คุ้มที่จะซ่อมให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิม ส่วนใหญ่ประกันจะจ่ายเงินในอัตรา 70-80% ของทุนประกันรถ หรือมูลค่ารถ (ขึ้นอยู่กับรายละเอียดกรมธรรม์) เพื่อเป็นการขอซื้อซากรถ

แบบที่ 2 เสียหายบางส่วน
กรณีที่ยังสามารถซ่อมกลับมาใช้ได้ ประกันภัยก็จะตีเป็นลักษณะความเสียหายบางส่วน ประกันรับผิดชอบซ่อมแซมรถให้กลับมาใช้งานได้ปกติ ประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100%

ราคากลางค่าซ่อมรถที่ถูกน้ำท่วม
มาตรฐานการซ่อมรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งแบ่งเป็น 5 ระดับ คือ

ระดับ A น้ำท่วมถึงพื้นรถยนต์ ประเมินค่าซ่อม 8,000-10,000 บาท

ระดับ B น้ำท่วมถึงเบาะนั่ง ประเมินค่าซ่อม 15,000-20,000 บาท

ระดับ C น้ำท่วมถึงส่วนล่างของคอนโซลหน้า ประเมินค่าซ่อม 25,000-30,000 บาท

ระดับ D น้ำท่วมถึงส่วนบนของคอนโซลหน้า ประเมินค่าซ่อมเริ่มต้นที่ 30,000 บาทขึ้นไป

ระดับ E รถยนต์จมน้ำทั้งคัน ในกรณีนี้บริษัทจะคืนทุนประกันภัยให้กับผู้เอาประกันภัย

วิธีการเคลมประกัน เมื่อน้ำท่วมรถ
1. ถ่ายรูปรถในขณะถูกน้ำท่วม ซึ่งควรถ่ายให้เห็นทะเบียนรถ เพื่อเป็นหลักฐานว่าคือรถคันที่เอาประกันไว้
2. โทรหาบริษัทประกันฯ เพื่อตรวจสอบดูว่ากรมธรรม์ของเราเป็นประเภทไหน แล้วรอพนักงานเคลมประกันประสานงานเรื่องรถยก รถลาก
3. นัดหมายการตรวจสภาพความเสียหายของรถยนต์กับเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัย เพื่อเตรียมซ่อม (บริษัทประกันภัยจะรับผิดชอบค่ารถยกลาก ซึ่งส่วนมากจะไม่เกิน 20% ของค่าซ่อม)
4. รอรับบริการซ่อมแซมจากอู่กลางที่สะดวกในการเดินทางทั้งเราและเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัย

ย้ำว่า ถ้าขับรถเจอน้ำท่วมสูง ให้หาเส้นทางอื่น พยายามอย่าขับรถลุยน้ำ เกิดความเสียหายขึ้นมาประกันไม่จ่าย หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ต้องขับรถลุยน้ำ ตั้งสติ ปิดแอร์ ขับช้า ๆ ใช้เกียร์ต่ำ ถ้าเครื่องยนต์ดับกลางทาง อย่าสตาร์ตเครื่อง น้ำจะเข้ามา เสียหายหนักกว่าเดิม

Adblock test (Why?)