
โดยคาดว่าเร็วๆ นี้คลังจะมีการประกาศรายละเอียดของมาตรการส่งเสริมเป็นแพ็คเกจ ทั้งที่เป็นมาตรการภาษีและไม่ใช่มาตรการภาษี เช่น การลดภาษีรถยนต์ประจำปี การลดราคาค่าทางด่วน หรือการสนับสนุนที่จดรถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น ส่วนการให้เป็นเงินอุดหนุนแก่ผู้ที่ซื้อรถไฟฟ้าเหมือนในบางประเทศที่ใช้นั้น ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะนำมาใช้ในประเทศไทยหรือไม่
ปัจจุบันโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ อ้างอิงการปล่อยก๊าซคาร์บอนของรถยนต์ ซึ่งหากปล่อยคาร์บอนต่ำ อัตราภาษีสรรพสามิตจะอยู่ในอัตราที่ต่ำกว่ารถยนต์ที่ปล่อยคาร์บอนสูงกว่า ซึ่งหลักการนี้จะทำให้รถยนต์ไฟฟ้า เป็นรถยนต์ที่มีอัตราภาษีที่ต่ำที่สุดในโครงสร้างภาษีรถยนต์ สำหรับรถยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์เท่ากัน
สำหรับอัตราภาษีสรรพสามิต ภาษียานยนต์ไฟฟ้า 2 รูปแบบ คือ
1.เครื่องยนต์ไฮบริด หากเป็นรถยนต์นั่งเครื่องยนต์ต่ำกว่า 3,000 ซีซี เสียภาษี 8% แต่จะเสียเพียง 4% จนถึงปี 2568 และหากเครื่องยนต์มากกว่า 3,000 ซีซี จะเสียภาษี 16-26% ตามปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ระหว่างนี้จนถึงปี 2568 กรมสรรพาสามิตจะลดภาษีให้ 50%
2.BEV หรือรถยนต์ไฟฟ้า 100% เสียภาษี 8% โดยลดภาษีออกเป็น 2 ระดับ คือในปี 2561-2565 เสียในอัตรา 0% จาก 2% และ ปี 2566-2568 เสียในอัตรา 2%
ขณะที่ รถอีวี นำเข้าจากต่างประเทศจะเสียภาษีในอัตรา 80% ของราคาประเมิน ยกเว้นนำเข้าจากประเทศจีน ที่ไม่มีอัตราภาษี เนื่องจากเป็นข้อตกลงอาเซียน-จีน โดยขณะนี้มีค่ายเอ็มจี และ เกรทวอลล์มอเตอร์ นำเข้ารถอีวีมาทำตลาดแล้ว ขณะที่ค่ายรถญี่ปุ่นยังไม่มีความชัดเจน ค่ายยุโรปมีเพียงเมอร์ซีเดสเบนซ์เท่านั้นใช้วิธีการเปิดสายการผลิตในประเทศ ซึ่งจะเริ่มในปี 2565
อ่านบทความและอื่น ๆ ( คลัง จ่อประกาศภาษีหนุนนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า - ฐานเศรษฐกิจ )https://ift.tt/3CfMFuh
รถยนต์
Bagikan Berita Ini
0 Response to "คลัง จ่อประกาศภาษีหนุนนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า - ฐานเศรษฐกิจ"
Post a Comment