มา เจาะกระบวนการฟอกรถหรูจากดำเป็นขาว ธุรกิจมืดที่ทำกันอย่างโจ่งครึ่ม จากเมื่อเร็วๆนี้มีข่าวของ ผกก.โรงพักเมืองนครสวรรค์ อย่าง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล (โจ้) ที่ใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหารีดข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติดจนขาดอากาศเสียชีวิต จนนำไปสู่การขยายผลถึงความร่ำรวยของนายตำรวจระดับยศพันตำรวจเอก จนพบว่ามีกระบวนการฟอกรถหรู จากดำเป็นขาว ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อน ดังนั้นวันนี้เรามาดูกระบวนทํางานของระบบการฟอกรถหรูกันดีกว่ามาเขาทำงานกันอย่างไร โดยเป็นเรื่องราวจาก คุณ อมร พวงงาม
เจาะกระบวนการฟอกรถหรูจากดำเป็นขาว ธุรกิจมืดที่ทำกันอย่างโจ่งครึ่ม BY อมร พวงงาม
นี่ถ้าไม่มีคลิปอดีต ผกก.โรงพักเมืองนครสวรรค์ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล (โจ้) ใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหารีดข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติดจนขาดอากาศเสียชีวิต เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และถูกศาลออกหมายจับข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จนนำไปสู่การขยายผลถึงความร่ำรวยของนายตำรวจระดับยศพันตำรวจเอก กระบวนการฟอกรถหรู จากดำเป็นขาว ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อน คงไม่ถูกนำมาเปิดเผยอีกครั้ง หลังจากไม่มีใครพูดถึงมายาวนาน วันก่อนมีโอกาสยกหูคุยกับเจ้าพ่อค้ารถเก่ารายใหญ่ในบ้านเรา เล่าให้ฟังถึงกระบวนการนี้ น่าสนใจทีเดียวครับวิธีการคือ ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ อาศัยช่องว่างกฎหมาย ฟอกรถผิดกฎหมายให้เป็นรถถูกต้อง
ความร่ำรวยกันเป็นล่ำเป็นสัน
โดยกฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนว่า รถยนต์ที่นำเข้าจากต่างประเทศจะต้องผ่านพิธีการศุลกากร หรือต้องเสียภาษี ไม่ว่าจะเอามาใช้เองหรือเพื่อการค้า ภาษีจะมีตั้งแต่ศุลกากร, สรรพสามิต, มหาดไทย และภาษีมูลค่าเพิ่ม หากผู้ใดลักลอบนำเข้ามาโดยไม่เสียภาษี มีความผิด โทษมีทั้งปรับและจำคุก
ส่วนรถยนต์หนีภาษีที่จับกุมได้ ทางกรมศุลกากรจะดำเนินการประมูลขายทอดตลาด และนำเงินที่ได้จากการประมูล หักค่าใช้จ่ายนำส่งเข้าคลังเป็นเงินแผ่นดินต่อไป ซึ่งค่าใช้จ่าย หมายถึง สินบนนำจับ สินบนชี้เบาะแส และค่าดำเนินการจัดทำประมูล ส่วนรถที่ประมูลแล้ว ถือเป็นรถที่ถูกต้องสามารถนำไปจดทะเบียนใช้งานได้อย่างถูกกฎหมาย ตรงนี้นี่เองแหละ ที่พวกหัวใสเอามาใช้เป็นช่องหาประโยชน์กันอย่างโจ่งครึ่ม เริ่มจากลักลอบนำเข้าประเทศ หลัก ๆ มีไม่กี่รูปแบบ ประเทศที่ชื่นชอบ คือ กลุ่มประเทศที่ใช้รถพวงมาลัยขวาเช่น มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย ส่วนลาว, เขมร ไม่นิยมเพราะพวงมาลัยอยู่ด้านซ้าย
รถหนีไฟ
- แบบแรกเรียกว่า “รถหนีไฟ” พวกนี้เจ้าของไม่มีปัญญาผ่อนต่อใกล้ถูกไฟแนนซ์ยึด กระบวนการจะเข้าไปทาบทามขอซื้อ รถยอดนิยม เช่น นิสสัน แฟร์เลดี้, นิสสัน GTR, โตโยต้า MR2, มาสด้า RX7 หรือ RX8, ปอร์เช่, เฟอร์รารี่, ลัมโบร์กินี ฯลฯ
รถขโมย
- แบบที่สอง “รถขโมย” เลือกเลยครับชอบรุ่นไหน แบบที่สาม “ซื้อ” มีให้เลือกทั้งรถเก่าและป้ายแดง ส่วนใหญ่จะเป็นรถคลาสสิก ซึ่งในมาเลเซียราคาถูกกว่าบ้านเราเป็นครึ่ง
หลังจากนั้นดำเนินการว่าจ้างขับรถเข้าประเทศไทย มีทั้งมาในรูปแบบท่องเที่ยวและหลบหนีเข้าประเทศ แล้วเอาไปจอดทิ้งไว้เฉย ๆ ตามปั๊มน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า อำเภอที่มีการจับกุมเยอะสุด คือ หาดใหญ่ ตรงนี้แหละ ที่จะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะชุดจับกุม ก็จับได้เฉพาะรถเท่านั้น ซึ่งหลักฐานจากกรมศุลฯระบุว่า มีรายชื่อสารวัตรโจ้ดำเนินการจับกุมหลายคดี
รถหนีไฟยังสามารถเคลมประกันรถหายได้ด้วย
สเต็ปต่อไปกรมศุลฯดำเนินการขายทอดตลาดด้วยวิธีประมูล เงินที่ได้หักเป็นสินบนนำจับ 25% และผู้แจ้งเบาะแส 30% ลองคิดดูรถคันหนึ่งประมูลจบที่ 4-5 ล้านบาท
เหลือเงินเข้ารัฐไม่ถึงครึ่ง…อีกกว่าครึ่งไม่รู้ไปอยู่ในกระเป๋าใคร
นี่ยังไม่รวมถึงเทคนิคถอดของสำคัญของรถออก เช่น สมองกล, เบาะนั่ง, แดชบอร์ดบางชิ้น ซึ่งทำให้รถเสียมูลค่า แล้วประมูลซะเองในราคาต่ำๆ ได้มาแล้วก็เอาของที่ถอดใส่กลับที่เดิม แล้วใช้บริการพรรคพวกซึ่งเป็นกลุ่มผู้นำเข้ารถหรูช่วยปล่อยต่อในตลาดอีกที เรียกว่า “ได้ซับได้ซ้อน” กันเลยทีเดียว ส่วนบรรดารถหรูทั้งหลายก่อนนำมาประมูลสีออกดำ ๆ เทา ๆ หลังประมูลเสร็จกลายเป็นสีขาวขึ้นมาทันที เอาไปขับโฉบเฉี่ยวใช้งานกันได้สบาย
ได้เม็ดเงินกว่า 1,000 ล้านบาท
ข้อมูลกรมศุลฯระบุว่า ตั้งแต่ปี 2554-2560 ผกก.โจ้เป็นเจ้าของสำนวนคดีนำจับรถหรูและรถทั่วไปรวม 368 คัน ขายทอดตลาดไปแล้ว 363 คัน ได้เม็ดเงินกว่า 1,000 ล้านบาท นอกจากเม็ดเงินจำนวนมหาศาลจากเบาะแสชี้เป้าและสินบนการจับกุมแล้ว กระบวนการนี้ยังมีอีกหลากหลายวิธี ซึ่งแต่ละอย่างสร้างรายได้ให้กับตัวเองและเครือข่ายมหาศาล เช่น นำรถหรูเข้าประเทศอย่างถูกต้อง แต่สำแดงราคาซื้อต่ำมาก ๆ เพื่อเลี่ยงเสียภาษีให้ถูกลง ซึ่งยังมีรถค้างอยู่กับ “ดีเอสไอ” อีกหลายคดี ทั้งปอร์เช่, เบนท์ลีย์, ลัมโบร์กินี ฯลฯ หรือกรณีรถจดประกอบ กว่าที่เจ้าหน้าที่จะตาสว่างเลิกอนุญาตให้นำเข้า เครือข่ายกระบวนการฟอกรถหรูซิกแซ็กหาเงินหาทองเข้ากระเป๋ากันจนอิ่มแปล้ “เงิน” ทุจริตนี่ มันช่างหอมหวนดีจริง
ขอขอบคุณเรื่องราวและรายละเอียดจากคุณ อมร พวงงาม จาก ประชาชาติธุรกิจ
ก่อนจากกันไปเนื่องจากในทุกวันนี้ การใช้รถใช้ถนนมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา ดังนั้นนอกจากผู้ใช้รถทุกคนต้องไม่ประมาทและควรระมัดระวังในการขับขี่แล้ว การทำประกันภัยรถนั้นก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้ท่านเพิ่มความอุ่นใจในการใช้รถใช้ถนนมากขึ้น ดังนั้นทาง www.moneyguru.co.th ต้องการที่จะช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าใช้จ่ายจากการจ่ายเบี้ยประกันด้วยการ ลดราคาเบี้ยประกันทันที่ 10% รับมือพิษเศรษฐกิจในเวลานี้
ไม่พลาดทุกเรื่องราวข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อน กับ LINE @MoneyGuruThailand
https://ift.tt/3nuBskX
รถประกัน
Bagikan Berita Ini
0 Response to "เจาะกระบวนการฟอกรถหรูจากดำเป็นขาว ธุรกิจมืดที่ทำกันอย่างโจ่งครึ่ม - MoneyGuru"
Post a Comment