
สถานการณ์น้ำท่วมจากอิทธิพลของพายุเตี้ยนหมู่ ทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง หนึ่งในนั้นคือรถยนต์ที่เจ้าของไม่สามารถขับหนีน้ำได้ทัน
วันที่ 27 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ได้สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมาก เนื่องจากระดับที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ประชาชนไม่สามารถขนย้ายทรัพย์สินหนีออกมาได้ทัน
หนึ่งในทรัพย์สินของประชาชนที่ได้รับความเสียหายคือ “รถยนต์” ตามที่ปรากฏภาพรถจำนวนมากจอดแช่น้ำตามบริเวณบ้านเรือนประชาชน
“ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมข้อมูลและข้อปฏิบัติกรณีน้ำท่วมรถยนต์ สำหรับผู้ประสบภัย ดังนี้
ทำอย่างไรเมื่อน้ำท่วมรถ ?
ข้อมูลจาก มติชน แนะนำว่า ห้ามสตาร์ตรถ หรือบิดกุญแจไปตำแหน่ง ON เด็ดขาด เพราะรถยนต์มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบไฟฟ้า ควบคุมการทำงานของระบบต่าง ๆ จะทำให้ชอร์ตเสียหายได้
ทางที่ดีที่สุดควรถอดขั้วแบตเตอรี่ออกทันที เพื่อตัดระบบจ่ายไฟ นำรถเข้าอู่หรือศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายของเหลวทั้งหมด เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ น้ำมันเฟืองท้าย น้ำหล่อเย็น เป็นต้น
ส่วนช่วงล่างหรือระบบรองรับ ควรให้ช่างอัดจาระบีลูกหมากใหม่ ตรวจเช็กระบบเบรกว่าผิดปกติหรือไม่ โดยเฉพาะรถระบบเบรกแบบดุม น้ำอาจเข้าได้ ต้องถอดออกมาทำความสะอาด ส่วนภายห้องโดยสาร ไล่แก้ไขไปทีละจุด เพื่อให้สะอาดที่สุด
น้ำเข้ารถแบบไหน ? ประกันรับเคลม
ข้อมูลจากเว็บไซต์ เงินติดล้อ ระบุไว้ว่า ทางประกันภัยรถยนต์จะให้ความคุ้มครองที่ต่างกัน โดยแบ่งกรณีที่รถเสียหายจากน้ำท่วมได้ ดังนี้
- เกิดน้ำท่วมจากภัยพิบัติธรรมชาติ จอดรถเอาไว้ในบ้าน แล้วในช่วงหน้าฝนมีพายุฝนถล่มติดต่อกันนานหลายวัน ทำให้เกิดน้ำหลาก ย้ายรถหนีไม่ทัน รถถูกน้ำเข้าเสียหายบางส่วน
กรณีนี้ประกันภัยรถยนต์ > รับเคลม แต่ในกรณีที่รถถูกน้ำเข้าจนเสียหายโดยสิ้นเชิงและทางบริษัทประกันประเมินว่าไม่คุ้มที่จะซ่อมให้กลับมาในสภาพเดิม จะจ่ายเงิน 70-80% ของทุนประกัน
- ขับรถไปลุยน้ำท่วมขังบนถนน กำลังขับรถอยู่บนท้องถนนแล้วเห็นว่ามีน้ำท่วมขังแต่ยังตัดสินใจขับรถลุยน้ำ จนน้ำเข้าห้องเครื่อง ทำระบบไฟฟ้าเสียหาย เครื่องยนต์ดับ หรือระดับน้ำสูงจนเข้ามาในห้องโดยสารจนเบาะรถ หรือวัสดุอื่นๆ เกิดความเสียหาย หรือมีประกาศออกมาจากทางภาครัฐว่าถนนเส้นไหนกำลังเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม แต่คุณยังตัดสินใจขับรถไปบนถนนเส้นนั้นจะรถพังเสียหาย
กรณีนี้ประกันภัยรถยนต์ > ไม่รับเคลม หรือประกันภัยรถยนต์ประเภทที่ 1 ช่วยค่าเสียหายบางส่วน (แล้วแต่กรณี)
- รถติดบนถนนขณะที่ฝนตกหนักจนน้ำท่วม ขับรถออกไปข้างนอก แล้วเกิดรถติดอยู่บนถนนเส้นหนึ่งเป็นเวลานาน จากนั้นมีฝนตกหนักแล้วอยู่ๆ เกิดน้ำท่วมสูงจนทำให้รถได้รับความเสียหาย
กรณีนี้ประกันภัยรถยนต์ > รับเคลม
เคลมประกันแบบไหนได้บ้าง ?
การขอเคลมค่าซ่อมแซมรถยนต์จากน้ำท่วม จะขึ้นอยู่กับลักษณะของความเสียหาย โดยทางบริษัทประกันจะพิจารณาจากลักษณะของการถูกน้ำเข้า ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบเองได้จากกรมธรรม์ก่อนว่าคุ้มครองในกรณีไหนบ้าง โดยประเภทประกันภัยที่จะคุ้มครองการถูกน้ำท่วม ได้แก่
- ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1
- ประกันภัยรถยนต์ประเภท 2+ (ขึ้นอยู่กับกรมธรรม์)
- ประกันภัยรถยนต์ประเภท 3+ (ขึ้นอยู่กับกรมธรรม์)
การเตรียมตัวเคลมประกันเมื่อน้ำเข้ารถ
เมื่อตรวจสอบแล้วว่ารถของคุณสามารถเคลมประกันได้จากกรณีน้ำท่วม ให้ทำการเตรียมตัวขอเคลมได้ดังนี้
- เอกสารเกี่ยวกับตัวรถและกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ให้พร้อม ซึ่งควรมีฉบับสำรองเตรียมเอาไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน
- เอกสารที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของรถ เช่น ใบขับขี่ สำเนาบัตรประชาชน
- หลักฐานในขณะเกิดเหตุ เช่น ภาพถ่ายขณะเกิดน้ำท่วม จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ประกันสามารถประเมินความเสียหายได้
หากไม่มีหลักฐานต้องทำอย่างไร
ใช้การบันทึกรายละเอียดของเหตุการณ์เอาไว้ให้ละเอียดที่สุด โดยคาดคะเนความเสียเอาไว้ด้วยตา ว่าน้ำท่วมสูงแค่ไหน และเกิดเหตุในช่วงเวลากี่โมง หรือทางที่ดีให้ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจเพื่อเป็นหลักฐานเอาไว้
อ่านบทความและอื่น ๆ ( น้ำท่วมรถ ต้องทำอย่างไร ? เคลมประกันได้หรือไม่ ? - ประชาชาติธุรกิจ )https://ift.tt/3obUk94
รถยนต์
Bagikan Berita Ini
0 Response to "น้ำท่วมรถ ต้องทำอย่างไร ? เคลมประกันได้หรือไม่ ? - ประชาชาติธุรกิจ"
Post a Comment