ฝนตกทุกวันไม่ขาดสายจริงๆ ในช่วงสัปดาห์นี้ และคาดการณ์ว่าจะยังตกต่อเนื่อง เนื่องจากร่องมรสุมที่พาดผ่าน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุม ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง การขับรถในช่วงที่ฝนตกเช่นนี้ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือที่ปัดน้ำฝน แท่งเล็กๆ สองแท่งที่อยู่บนกระจกหน้าของรถยนต์ที่มีความสำคัญมากทีเดียว เราจึงต้องดูแลเป็นพิเศษ
1. ทำความสะอาดเจ้าก้านปัดน้ำฝนบ้าง เพียงแค่ยกก้านขึ้น หาผ้าชุบน้ำ (ย้ำว่าชุบแค่น้ำธรรมดา ไม่ต้องถึงขนาดใช้น้ำยาทำความสะอาดอื่นใด เนื่องจากจะทำให้ยางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพได้ไวกว่าอายุขัย) เช็ดตามแนวยางของใบพัดน้ำฝน ไม่ให้ฝุ่นหรือใบไม้เกาะจนสกปรก เวลาใช้งานจริงจะได้ปัดได้เรียบลื่นไม่ติดฝุ่นละอองใดๆ

2. รถติดว่างๆ แม้ฝนไม่ตก ก็ฉีดน้ำแล้วใช้งานที่ปัดน้ำฝนบ้าง ได้ประโยชน์ทั้งกระจกสะอาด และยางบนใบปัดน้ำฝนก็ไม่เสื่อมสภาพ และทดลองใช้ทั้งสามโหมดของรถยนต์ คือ ช้า ต่อเนื่อง และเร็วสุด เพื่อเช็กสภาพการทำงานทั้งระบบด้วย
3. เช็ดกระจกให้สะอาดอยู่เสมอ ด้วยน้ำยาเช็ดกระจก และเคลือบกระจก อย่างน้อยๆ ก็เพื่อให้กระจกมีน้ำยาเคลือบสามารถช่วยไล่น้ำได้ส่วนหนึ่ง แถมยังป้องกันเศษหินเศษดินเล็กๆ ที่ติดอยู่ตามกระจก ที่หากเจอที่ปัดน้ำฝนเข้า กระจกรถยนต์อาจเป็นรอยได้
4. ความร้อนจากแสงแดดเป็นศัตรูทำร้ายยางปัดน้ำฝนให้กรอบแตกเสื่อมสภาพได้
5. จดข้อมูลของรถยนต์ให้ละเอียด เช่น เปลี่ยนใบปัดน้ำฝนทุกๆ ปี และหมั่นตรวจสภาพการใช้งานทุก 6 เดือน
แก้ไขความเข้าใจ จอดรถตากแดด ต้องยกใบปัดน้ำฝนขึ้นหรือไม่
คำตอบคือ ไม่ต้องยกครับ วางไว้ตามเดิมดีที่สุด เพราะยิ่งคุณยกที่ปัดน้ำฝนขึ้นมายิ่งทำให้ก้านเจอแดดมากขึ้น เสี่ยงต่อสปริง ก้านปัดน้ำฝนและยางปัดน้ำฝนเสียได้

สัญญาณบ่งบอกที่ปัดน้ำฝนใกล้ต้องเปลี่ยนใหม่
- ไม่สามารถรีดน้ำบนกระจกได้หมด
- มีเสียงดังเวลาใช้งาน หรือมีจังหวะกระตุกไม่สมูทเหมือนที่เคยใช้
ในกรณีเลวร้ายขั้นสุด ที่ปัดน้ำฝนไม่ทำงาน ก็มักจะมาจากหลายสาเหตุ เช่น ฟิวส์ หรือมอเตอร์ปัดน้ำฝนสึกหรอ หรือหากเป็นปัญหาที่ปัดน้ำฝนปัดแล้วไม่กลับมาที่เดิม อาจต้องตั้งเฟืองกันใหม่
ผู้เขียน : เครื่องยนต์คนขยัน
https://ift.tt/39ETtVM
รถยนต์
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ดูแลที่ปัดน้ำฝนรถยนต์ รีดน้ำฝนให้กระจกใสปิ๊ง ขับขี่ปลอดภัยช่วงฝนตกหนัก - ไทยรัฐ"
Post a Comment