ฟิลิปปินส์ ยุติใช้เซฟการ์ดนำเข้ารถยนต์จากไทย ‘จุรินทร์’ ชี้ช่วยคงส่วนแบ่งตลาด-รักษารายได้ 7 หมื่นล้าน
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่าประเทศฟิลิปปินส์ได้ยุติการไตร่สวนตามมาตรการปกป้อง (Safeguard) การนําเข้าสินค้ายานยนต์จากประเทศไทย หลังจากเปิดทำการไตร่สวนเมื่อเดือนธันวาคม 2563 และประกาศผลเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ที่จะเรียกเก็บภาษีและอากรนำเข้าจากผู้นำเข้ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถกระบะ ซึ่งหากมีการดำเนินการจะเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้นำเข้ารถยนต์จากไทยอีก 1,200 ล้านบาท ดังนั้น ตนจึงได้ดำเนินการ 2 ส่วน คือ ส่วนแรก ตั้งทีมไทยแลนด์ มีตัวแทนรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเจรจาและทำข้อมูลโต้แย้ง อีกส่วนคือ ได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีการค้าฟิลิปปินส์ 2 ครั้ง ขอให้การไตร่ตรวจไปตามกฎเกณฑ์องค์การการค้าโลก(WTO) ไม่อย่างนั้น ประเทศไทยจะฟ้องฟิลิปปินส์ต่อ WTO ต่อไป
“ซึ่งความพยายามเป็นผลสำเร็จ ในวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์ได้ยุติการไตร่สวน ซึ่งทำให้ผู้นำเข้าไม่ต้องแบกรับภาระเพิ่ม 120 ล้านบาท ทั้งทำให้รถยนต์ 2 ชนิดจากไทย คงรายได้การค้าในฟิลิปปินส์ 6-7 หมื่นล้านบาท เพราะปัจจุบันฟิลิปปินส์นำเข้ารถกระบะจากไทยถึง 99% ของการนำเข้าทั้งหมด และนำเข้ารถยนต์ส่วนตัวจากไทย 20% การนำเข้าทั้งหมด ซึ่งช่วงที่มีการไตร่สวนยังไม่ได้สร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไทย เพราะถ้ามาตรการถูกนำมาใช้โดยรถยนต์นั่งต้องเสียอากรนำเข้า 4.2 หมื่นบาท/คัน ส่วนรถกระบะเสีย 6.6หมื่นบาท/คัน และจะกระทบต่อไทยในไตรมาส 3-4 ปีนี้ เมื่อได้รับการสั่งให้ยุติการไต่สวนก็ถือว่าสามารถรักษาตลาดการส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและปิกอัพไทยไปฟิลิปปินส์สามารถเดินหน้าและเดินหน้านำรายได้เข้าประเทศได้จำนวนมหาศาล” นายจุรินทร์ กล่าว
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ท่านจุรินทร์ ที่สั่งการให้จัดตั้งทีมไทยแลนด์และติดตามกำชับอย่างต่อเนื่อง จนประสบความสำเร็จ ถือเป็นโอกาสการส่งออกของประเทศไทยเพื่อการนำรายได้เข้าประเทศ การยุตติการไต่สวนมาตรการปกป้องในครั้งนี้ ถือเป็นข่าวดีของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยฟิลิปปินส์ ถือเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 4 ของไทย รองจากออสเตรเลีย เวียดนาม และญี่ปุ่น
ปัจจัยสําคัญที่ทําให้ฟิลิปปินส์ก้าวขึ้นมาเป็นตลาดส่งออกรถยนต์สําคัญของไทย เนื่องจากประเทศสมาชิกอาเซียนได้มีข้อตกลงเปิดเสรีสินค้าระหว่างกัน โดยอัตราอากรนําเข้าสินค้ายานยนต์ของ ฟิลิปปินส์ได้ลดลงจากร้อยละ 30 มาอยู่ที่ร้อยละ 0 ภายใต้เงื่อนไขว่าจะต้องมีหนังสือรับรองถิ่นกําเนิดสินค้า Form D ที่ออกโดย กรมการค้าต่างประเทศกํากับ ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ถือเป็นกลุ่มสินค้าที่มีการใช้สิทธิประโยชน์ ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอันดับต้นๆ
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่
https://ift.tt/2VQVvyY
รถยนต์
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ฟิลิปปินส์ ยุติใช้เซฟการ์ดนำเข้ารถยนต์จากไทย 'จุรินทร์' ชี้ช่วยคงส่วนแบ่งตลาด-รักษารายได้ 7 หมื่นล้าน - มติชน"
Post a Comment