Search

โตโยต้า อุ้มดีลเลอร์ฝ่าโควิด "ยืดเครดิต-แบกรับดอกเบี้ย"ลั่นไม่ปรับเป้า - ประชาชาติธุรกิจ

โตโยต้าอุ้มดีลเลอร์ฝ่าวิกฤตโควิด ยืดเครดิตยอมแบกดอกเบี้ยแทน งัดมาตรการ “ลีนสต๊อก” ลดค่าใช้จ่าย ระบุชัดช่วงนี้นาทีทองคนซื้อรถ ลั่นยังไม่ปรับเป้ายอดขาย ปีนี้แตะ 2.8 แสนคันพร้อมเดินหน้าหนุนรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานทางเลือกเต็มสูบหากนโยบายรัฐชัดเจน

นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ผลกระทบไวรัสโควิดซึ่งทำให้ยอดขายรถยนต์ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคม 2564 ลดลงอย่างต่อเนื่อง โตโยต้าได้พยายามเข้าไปดูแลผู้แทนจำหน่ายอย่างใกล้ชิด หามาตรการช่วยเหลือเพื่อให้ทุกรายสามารถผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ โดยนอกเหนือจากแคมเปญส่งเสริมการขายซึ่งทำอย่างต่อเนื่องและหนักขึ้นเรื่อย ๆ ยังให้การสนับสนุนทุกด้าน ตั้งแต่ยืดเครดิตเทอม และบริษัทแบกรับดอกเบี้ยให้ด้วย ยังให้ความรู้ด้านบริหารจัดการสต๊อก ส่งเสริมการขายรถแบบออนไลน์มากขึ้น

“ที่ผ่านมามีดีลเลอร์จำนวนไม่เยอะ ที่ขอยื่นปรับปรุงเครดิตเพื่อบริหารจัดการสต๊อก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นผลจากที่บริษัทได้ใช้นโยบายแบบลีนสต๊อกอยู่แล้ว ทำให้ดีลเลอร์ไม่ต้องแบกรับภาระมาก ส่วนเครดิตปกติเรามีให้ดีลเลอร์ 1 เดือน การขอยืดระยะเวลานั้น ขึ้นอยู่แต่ละรายซึ่งเราจะดูแลดอกเบี้ยให้ ตอนนี้เราทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้รู้ว่าดีลเลอร์แต่ละรายติดขัดอะไรบ้าง”

สำหรับสถานการณ์ยอดขายรถยนต์ในปีนี้ เฉพาะโตโยต้า มกราคม-เมษายน ขายไปแล้วกว่า 75,081 คัน โตโยต้ายังคงยืนยันเป้าหมายทั้งปีตามเดิมที่ได้ประกาศไว้ตั้งแต่ต้นปี โดยยอดขายรวมทั้งตลาดน่าจะมีถึง 850,000-900,000 คัน ส่วนโตโยต้าเองคาดว่าจะมียอดขาย 280,000-300,000 คัน หรือคิดเป็นยอดขายที่เพิ่มขึ้น 15-23% จากปีที่ผ่านมา คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 33.3% เช่นเดิม เนื่องจากขณะนี้บริษัทได้มีการประเมินและจับตาดูสถานการณ์ของตลาดรถยนต์โดยรวมอย่างใกล้ชิด

วันนี้ดีมานด์ของอุตสาหกรรมยานยนต์เริ่มคงตัว หลังจากต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด แต่ความต้องการใช้รถยนต์ไม่ลดลงยังมีภาวะคงตัว แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวมจะอยู่ในช่วงขาลง แต่ความต้องการใช้งานรถยนต์ปัจจุบันยังมีอยู่ในระดับที่มีการเติบโต ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะผู้บริโภคกลับไปอยู่ต่างจังหวัดมากขึ้น จำเป็นต้องใช้รถยนต์หรือใช้ในการประกอบอาชีพโดยเฉพาะรถปิกอัพ ที่มีการเติบโตขึ้น ทำให้สัดส่วนรถปิกอัพและรถเพื่อการพาณิชย์ เพิ่มขึ้นในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย. เป็น 67% ขณะที่รถยนต์นั่งมีสัดส่วนแค่ 30% กว่า ๆ เท่านั้น

“สถานการณ์ปัจจุบัน ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดหรือนาทีทองในการตัดสินใจซื้อรถยนต์ ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ล้วนแต่อัดโปรโมชั่นถล่มแคมเปญ”

ส่วนความคืบหน้าของโครงการพัฒนารถยนต์อีวีของโตโยต้านั้น ยังคงเดินหน้าไปทีละสเต็ป วันนี้โตโยต้าต้องรอนโยบายที่ชัดเจนของภาครัฐว่าจะออกมาแบบใด อย่างไร สำหรับนโยบายรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากโตโยต้ามีเทคโนโลยีที่หลากหลายรองรับอยู่แล้ว เทคโนโลยีพลังงานทางเลือกโตโยต้าก็เช่นเดียวกัน น่าจะมากที่สุดในโลก โดยเฉพาะฟิวเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน เมื่อรัฐบาลชัดเจน เอกชนก็พร้อมเดินตามแนวนโยบายของรัฐบาลอย่างแน่นอน

แต่ในการจะขยายตลาดไปรถยนต์ในกลุ่มไหนนั้น สิ่งสำคัญคือราคาที่สามารถแข่งขันได้ สุดท้ายจะไปจบตรงไหน วันนี้ยังเป็นเรื่องที่พูดได้ยาก เช่น หากเป็นรถยนต์ไฟฟ้า แม้รัฐบาลจะพยายามลดภาษีให้ต่ำลง แต่ถ้าราคาขายยังสูงคนที่เข้าถึงหรือซื้อได้อาจจะมีจำนวนไม่มาก และอนาคตถ้าราคาขายต่อไม่ดีจะเกิดอะไรขึ้น มูลค่าของรถหายไปเลย คนก็อาจจะไม่แฮปปี้กับรถอีวี

“สิ่งที่สำคัญที่สุดของรถยนต์ไฟฟ้า คือแบตเตอรี่ ผมมองว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายของประเทศไทยมาก เพราะถ้าจำไม่ผิดแบตเตอรี่มีมูลค่าราว ๆ 60% ของราคารถ ซึ่งถือว่าสูงมาก ทำอย่างไรให้แบตเตอรี่ถูกลง โตโยต้าก็มีโรงงานรีไซเคิลแบตเตอรี่ซึ่งก็น่าจะช่วยทำให้ราคาแบตเตอรี่ถูกลง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าราคาตั้งต้นของแบตเตอรี่ถูกลง”

โตโยต้ายังเดินตามวิสัยทัศน์ 2050 ว่า โตโยต้าจะเป็นองค์กรที่ช่วยลด CO2 เป็นศูนย์ในทุกกระบวนการ หรือ TOYOTA ENVIRONMENT CHALLENGE 2050 ส่วนโตโยต้า ประเทศไทยนั้นก็จะเดินตามแผนที่บริษัทแม่วางไว้ทุกอย่าง ทั้งรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด, รถยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ช่วยทำให้อีมิสชั่นเป็นศูนย์

ผู้สื่อข่าวถามความคืบหน้าประเด็นการตรวจสอบโตโยต้าในประเทศไทยถูกกล่าวหาว่า ติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อให้ประโยชน์ด้านภาษี ซึ่งผู้บริหารโตโยต้าระบุว่า คดีอยู่ในชั้นศาลฎีกา ซึ่งทุกอย่างอยู่ระหว่างรอผลคำพิพากษา

Adblock test (Why?)

อ่านบทความและอื่น ๆ ( โตโยต้า อุ้มดีลเลอร์ฝ่าโควิด "ยืดเครดิต-แบกรับดอกเบี้ย"ลั่นไม่ปรับเป้า - ประชาชาติธุรกิจ )
https://ift.tt/3phO9Ph
ขายรถ

Bagikan Berita Ini

Related Posts :

0 Response to "โตโยต้า อุ้มดีลเลอร์ฝ่าโควิด "ยืดเครดิต-แบกรับดอกเบี้ย"ลั่นไม่ปรับเป้า - ประชาชาติธุรกิจ"

Post a Comment

Powered by Blogger.