ถ้าจะพูดถึงเรื่องประกันภัยรถยนต์แล้ว หลายคนอาจนึกถึงรูปแบบการบริการแบบเดิมๆ ที่เคยรู้จักกันมา แต่ความคิดเหล่านั้นจะต้องเปลี่ยนไป กับบริการประกันภัยรถยนต์รูปแบบใหม่ล่าสุดจาก AIS ที่ร่วมบุกเบิกไปกับ MSIG พัฒนานวัตกรรม InsurTech มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการอย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกในไทย โดยจะมีการคำนวณเบี้ยประกันภัยจากพฤติกรรมการขับขี่ที่แท้จริง โดยใช้นวัตกรรมจาก IoT และเทคโนโลยีการสื่อสาร ผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างน่าสนใจ ลองมาทำความรู้จักกับ “ประกันขับดี” กันเลยดีกว่า ว่าจะมีอะไรที่โดดเด่นกันบ้าง

“ประกันขับดี” ความร่วมมือกันระหว่าง AIS Insurance Service – MSG ที่ได้การรับรองโดย สำนักงาน คปภ.

ก่อนอื่นเลย มาเริ่มทำความรู้จักกับที่มาของบริการนี้กันก่อน โดย “ประกันขับดี” นั้นเป็นการร่วมมือกันระหว่าง 3 หน่วยงานได้แก่ AIS Insurance Service ผู้นำด้าน Digital Service จับมือกับ MSIG ผู้นำธุรกิจประกันภัยและบริการด้านการเงินระดับโลก และสำนักงาน คปภ. หรือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย โดยทางสำนักงาน คปภ. นั้น มีบทบาทในการส่งเสริมธุรกิจประกันภัย ให้นำเอานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาปรับปรุงให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการให้บริการประชาชน รวมถึง ส่งเสริมให้ประเทศไทยพัฒนาเป็น InsurTech Hub
ซึ่งทางสำนักงาน คปภ. นั้นได้อนุมัติให้ “ประกันขับดี” ได้เข้าร่วมในโครงการทดสอบนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านประกันภัย หรือ Insurance Regulatory Sandbox ซึ่งเป็นโครงการมีเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญและมีศักยภาพได้มาร่วมคิดค้นและออกแบบโซลูชั่น เพิ่มขีดความสามารถของเทคโนโลยีในการสร้างดิจิทัลแพลตฟอร์ม ให้เกิดประโยชน์และเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์การใช้งานต่อผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน รวมถึง ยังมีความยืดหยุ่น และมีการคิดเบี้ยประกันภัยตามการขับขี่จริง
ที่สำคัญยังสามารถซื้อง่ายและจ่ายสะดวก บนช่องทางออนไลน์อีกด้วย

ที่มาของ “ประกันขับดี” นั้น เกิดขึ้นจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ทำให้ในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องมีการ Lockdown อยู่พักใหญ่ จนทำให้ประชาชนต้องปรับตัวครั้งใหญ่ โดยเฉพาะคนทำงานต้องเปลี่ยนเป็นทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home ไม่ต้องขับรถไปทำงานทุกวัน ทำให้การใช้รถบนท้องถนนน้อยลง จึงเป็นที่มาของแนวคิดที่ว่า ขับไม่เหมือนกัน ทำไมต้องจ่ายเท่ากัน ซึ่งทาง MSIG ได้พัฒนาแผนประกันภัยรถยนต์ที่มีเบี้ยประกันภัยสมเหตุสมผล จ่ายเมื่อขับและหากไม่ได้ขับก็ไม่ต้องจ่าย เป็นไปตามพฤติกรรมการใช้งานของผู้ขับขี่รถยนต์จริงๆ
“ประกันขับดี” บริการประกันภัยรถยนต์ที่มาพร้อมนวัตกรรม InsurTech เต็มรูปแบบครั้ง แรกในประเทศไทย

จุดเด่นที่น่าสนใจของ “ประกันขับดี” นอกเหนือจากการจับมือกันของพาร์ทเนอร์ทั้งสองแล้ว ยังมีความน่าสนใจในเรื่องของการนำ InsurTech เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการทางด้านประกันภัยรถยนต์ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ได้มีการนำนวัตกรรม InsurTech มาใช้อย่างเต็มรูปแบบกับวงการประกันก็ว่าได้ ลงลึกใน “ประกันขับดี” เป็น InsurTech ที่เป็นนวัตกรรมจากเทคโนโลยี IoT และเทคโนโลยีด้านการสื่อสารมาช่วยคำนวณเบี้ยประกันภัยจากพฤติกรรมการขับขี่ที่แท้จริง เป็นการคำนวณเบี้ยประกันภัยจากตัวแปรต่างๆ ที่ทันสมัยที่สุด โดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลจาก Big Data ซึ่งมีอุปกรณ์ MSIG Car Informatics หรือ OBD II (On-Board Diagnostic) เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กใช้ติดรถ สามารถเก็บค่าตัวแปรและค่าพฤติกรรมการขับรถในเชิงลึกได้ ซึ่ง OBD II นั้นจะเก็บข้อมูลเพื่อส่งคำนวณเบี้ยประกันภัยจากพฤติกรรมการขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องแม่นยำตามการใช้งานจริง
โดยทาง MSIG ได้พัฒนา “ประกันขับดี” ที่ใช้เทคโนโลยีในการติดตามพฤติกรรมการขับขี่ของเจ้าของรถยนต์หรือผู้เอาประกันภัย โดยต้องใช้อุปกรณ์ OBD II หรือ MSIG Car Informatics ที่มีซิมการ์ดอยู่ภายใน เพื่อคอยรับ-ส่งข้อมูลอยู่ตลอดเวลา และเลือกใช้ซิมการ์ดของ AIS เนื่องจากเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายฯ ที่มีสัญญาณที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุมทั่วประเทศมากที่สุดนั่นเอง
ในขณะที่ ทางด้าน AIS Insurance Service นอกจากจะรับหน้าที่เป็นตัวกลาง คัดสรรบริการประกันภัยที่ดีที่สุดจาก
พาร์ทเนอร์ เพื่อส่งมอบให้แก่ผู้ใช้บริการแล้ว ยังมีส่วนร่วมพัฒนาอุปกรณ์ MSIG Car Informatics ที่ฝังอุปกรณ์ IoT ให้สามารถส่งสัญญาณผ่านโครงข่ายของ AIS และประมวลผลเข้าสู่ระบบ Cloud ของ MSIG ได้อย่างแม่นยำ มีเสถียรภาพ ตรงตามพฤติกรรมการใช้งานจริงของลูกค้าแบบ Real Time ด้วยจุดแข็งในการเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ที่มีเครือข่ายครอบคลุมสูงสุด พร้อมคลื่นความถี่ที่มากที่สุด
รวมถึง ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานด้วยช่องทางการชำระค่าบริการรายเดือนผ่านระบบ Digital Payment Gateway ที่มีความปลอดภัยสูงสุด โดยถือเป็นต้นแบบของ InsurTech ครั้งแรกในประเทศไทยอีกด้วย

ในส่วนของการคิดคำนวณเบี้ยประกันนั้น “ประกันขับดี” จะแบ่งค่าเบี้ยประกันออกเป็น 2 ส่วน นั่นก็คือ
– ส่วนแรก เป็นค่าเบี้ยประกันพื้นฐานที่ต้องชำระในขั้นตอนซื้อครั้งแรกโดยจะได้รับอุปกรณ์ (MSIG Car Informatics) จากบริษัทฯ เพื่อนำไปติดตั้งในรถยนต์
– ส่วนที่สอง เมื่อติดตั้งอุปกรณ์กับตัวรถและทำการ Activate ในแอปพลิเคชัน “ประกันขับดี” หลังจากเริ่มใช้งาน จะมีการคำนวณเบี้ยประกันจากค่าชี้วัดต่างๆ ตามพฤติกรรมการขับขี่เป็นรายวัน โดยค่าเบี้ยจะถูกรวบรวมและตัดบัตรเครดิตที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้โดยอัตโนมัติเป็นรายเดือน โดยจะตัดบัญชีทุกวันที่ 6 ทุกเดือน
สำหรับหลักการคิดค่าเบี้ยประกันภัยในส่วนที่สองของ ประกันขับดี จะเป็นลักษณะเบี้ยแบบรายวันคิดตามพฤติกรรมการขับขี่จริงของผู้ใช้งานรถยนต์แต่ละราย โดยมีหลักเกณฑ์ที่นำมาใช้คำนวนผ่าน 5 ตัวแปรหลัก ได้แก่
1) ระยะทาง คิดจากระยะทางในการขับขี่จริงในแต่ละวัน เช่น หากวันไหนอยู่บ้าน ไม่ได้มีการขับรถ ก็จะไม่คิดค่าเบี้ยประกันภัยแต่อย่างใด
2) ความเร็วเฉลี่ย คิดเป็นหลักกิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยจะสัมพันธ์กับสภาพการจราจร ความว่างบนท้องถนน โดยคิดเป็นทริปจากวินาทีแรกที่สตาร์ทรถจนถึงวินาทีที่ดับรถ ซึ่งแต่ละคนจะมีความเร็วเฉลี่ยที่ไม่เท่ากัน จากสถิติพบว่า ความเร็วเฉลี่ยของผู้ขับขี่รถในพื้นที่กรุงเทพฯ จะอยู่ราวที่ 20-30 กม. / ชั่วโมง แต่ในขณะที่ ผู้ขับขี่รถในต่างจังหวัดจะทำความเร็วเฉลี่ยได้สูงกว่า อยู่ที่ 40-50 กม. / ชั่วโมง และเราจะเห็นได้ว่าผู้ขับรถที่อยู่บนทางหลวงไฮเวย์จะทำความเร็วเฉลี่ยได้สูงกว่าด้วยเช่นกัน
3) ระยะเวลา คิดตามระยะทางที่ขับจริง แม้จะเป็นเส้นทางเดียวกัน แต่ระยะเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพการจราจรของแต่ละวัน เช่น หากอยู่ในช่วงสถานการณ์ COVID-19 คนใช้รถน้อย เราอาจจะใช้เวลาเดินทาง 20 นาที เพื่อขับรถจากบ้านมายังที่ทำงาน แต่หากเป็นช่วงสถานการณ์ปกติ อาจต้องใช้เวลา 1.30 ชั่วโมง ซึ่งการอยู่บนท้องถนนในเวลาที่นานกว่า ย่อมมีความเสี่ยงบนท้องถนนมากกว่า
4) ช่วงเวลา จากการพิจารณาสถิติช่วงเวลาในการเกิดอุบัติเหตุ 5 ปีย้อนหลัง พบว่า ช่วงเวลา 07.00 – 20.00 น. คือช่วงที่มีการใช้รถยนต์โดยปกติ มีแสงและทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่ แต่หลังเวลา 22.00 น. สถิติแสดงให้เห็นว่ามีอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น เนื่องจากความมืด ส่งผลต่อทัศนวิสัยในการขับรถ นอกจากนี้ ยังเกี่ยวพันกับความเหนื่อยล้า (Fatigue) ที่ใช้ชีวิตมาทั้งวัน รวมถึง กิจกรรมปาร์ตี้ที่มีการดื่มของมึนเมา และในช่วงเวลาตั้งแต่เที่ยงคืน – 05.00 น. อุบัติเหตุจะน้อยลง แต่ความเสียหายจะหนักมากๆ เนื่องจากใช้ความเร็วสูงในยามวิกาล
5) พื้นที่ที่ขับ คิดเบี้ยต่างกันตามจังหวัดที่ขับ โดยใช้สถิติจากสถานที่ที่เกิดอุบัติเหตุ ย้อนหลัง 5 ปี จากบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัย แบ่งเป็น 3 โซน ได้แก่ 1. โซน A หมายถึง โซนจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุน้อย 2. โซน B หมายถึง โซนจังหวัดที่มีเกิด อุบัติเหตุปานกลาง และ 3. โซน C หมายถึง โซนจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุมาก

หลายคนอาจสงสัยว่า แล้วถ้าคิดคำนวณออกมาตามการใช้งานจริง จะมีค่าเบี้ยประกันประมาณเท่าไหร่กันแน่ ลองมาดูตัวอย่างการคิดเบี้ยประกันที่ปรับเปลี่ยนตามรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกัน
รูปแบบการใช้งานแบบที่ 1 ค่าเบี้ยประกันภัยประมาณ 12.89 บาท ต่อวัน
- ระยะทาง 10 กิโลเมตร ต่อวัน
- ขับบนท้องถนนไม่เกิน 2 ชั่วโมง ต่อวัน
- ความเร็วเฉลี่ย 20 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง
- ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 80 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง
- ขับขี่เฉพาะช่วงเช้า และเย็น
- ขับรถเฉพาะในกรุงเทพมหานคร
รูปแบบการใช้งานแบบที่ 2 ค่าเบี้ยประกันภัยประมาณ 14.32 บาท ต่อวัน
- ระยะทาง 30 กิโลเมตร ต่อวัน
- ขับบนท้องถนนไม่เกิน 3 ชั่วโมง ต่อวัน
- ความเร็วเฉลี่ย 25 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง
- ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 100 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง
- ขับขี่เฉพาะช่วงเย็น – เที่ยงคืน
- ขับรถเฉพาะในกรุงเทพมหานคร และนนทบุรี
รูปแบบของประกันภัยรถยนต์ “ประกันขับดี”
ประกันขับดี ให้ความคุ้มครองรถยนต์ทุกรุ่น (ยกเว้นรถยุโรป) ตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นไป โดยมีรูปแบบกรมธรรม์ ให้เลือก 2 แบบ คือ ประกันรถยนต์ชั้น 1 มีค่าเบี้ยประกันพื้นฐานรายปี เริ่มต้นที่ 6,499 บาท และ ประกันรถยนต์ 2+ มีค่าเบี้ยประกันพื้นฐานรายปี ราคา 3,299 บาท ทุกทุนประกันภัยและรถทุกรุ่น หลังจากนั้นจะคิดค่าเบี้ยประกันตามการขับขี่ ตามพฤติกรรมการขับขี่และรูปแบบการใช้งานรถยนต์ที่อุปกรณ์ MSIG Car Informatics บันทึกค่าไว้
ช่องทางการซื้อประกันขับดี และการติดตั้งอุปกรณ์ MSIG Car Informatics

ช่องทางในการสมัครใช้บริการ ประกันขับดี สามารถสมัครได้หลากหลายช่องทาง ได้แก่
- “ขับดี Service Center by MSIG” โทร. 065-924-1175
- เว็บไซต์ www.ais.co.th/insurance
- แอปพลิเคชัน ประกันขับดี
หลังจากซื้อประกันขับดีเรียบร้อยแล้ว ผู้เอาประกันจะได้รับกรมธรรม์ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Policy) สามารถเช็ครายละเอียดผ่านแอพพลิเคชั่นประกันขับดี และจะได้รับกรมธรรม์ในรูปแบบเอกสารจริงด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังได้รับอุปกรณ์ MSIG Car Informatics หรือ OBD II ซึ่งจะมีซิมการ์ดของ AIS ติดตั้งไว้ภายในเรียบร้อยแล้ว (รองรับเครือข่าย 3G / 4G) โดยทาง MSIG จะเป็นผู้รับผิดชอบอุปกรณ์ OBD II และ ค่าใช้จ่ายของซิมการ์ด
เมื่อได้รับอุปกรณ์ MSIG Car Informatics ให้ผู้ใช้งานติดตั้งแอพพลิเคชั่นประกันขับดี จากนั้นเข้าไปที่แอพเพื่อเปิดใช้งานอุปกรณ์ โดยจะต้องสแกนบาร์โค้ดที่อุปกรณ์ MSIG Car Informatics จากนั้นจึงนำอุปกรณ์ดังกล่าว ไปติดตั้งในรถยนต์โดยเสียบเข้ากับพอร์ต OBD II ซึ่งจะอยู่บริเวณคอนโซลหน้ารถ (ตำแหน่งพอร์ต OBD II ขึ้นอยู่กับรถแต่ละรุ่น) เสร็จแล้วสามารถตรวจสอบรูปแบบการขั้บขี่และเบี้ยค่าประกันในแต่ละวันได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่นประกันขับดี โดยสามารถดูรายละเอียดการติดตั้งเพิ่มเติมได้ที่คู่มือการติดตั้ง หรือสามารถดูข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน ประกันขับดี
สรุป

“ประกันขับดี” เป็นนวัตกรรมประกันภัยรถยนต์รูปแบบใหม่ ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ 2 องค์กรอย่าง AIS Insurance Service , MSIG โดยมีสำนักงาน คปภ. ให้การรับรอง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม InsurTech มาพัฒนาร่วมกับบริการทางด้านประกันภัยอย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อเก็บและนำข้อมูลมาคำนวณค่าเบี้ยประกันรายวัน ภายใต้แนวคิด จ่ายเมื่อขับและหากไม่ได้ขับก็ไม่ต้องจ่าย ซึ่งมีความสมเหตุสมผลและเป็นไปตามการใช้งานของผู้ขับขี่รถยนต์จริง เหมาะสำหรับผู้ขับรถที่ใช้รถน้อย หรือกลุ่มคนที่ใช้รถเป็นช่วงเวลา และเหมาะอย่างยิ่งกับผู้ขับขี่ที่ขับรถดี ขับรถไม่ซิ่ง รวมถึงยังจะได้รับบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนฟรี 24 ชั่วโมง ทั่วประเทศ หรือที่เรียกว่า MSIG Roadside Assistance และยังสามารถซื้อง่าย จ่ายสะดวก ผ่านทางระบบ Digital Payment Gateway จากทาง AIS อีกด้วย
ใครที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ais.co.th/insurance
อ่านบทความและอื่น ๆ ( มิติใหม่แห่งวงการประกัน!! AIS จับมือ MSIG เปิดตัว “ประกันขับดี” ประกันภัยรถยนต์สุดล้ำที่ให้จ่ายเบี้ยเท่าที่ขับจริง – Flashfly Dot Net - Flashfly )https://ift.tt/2NLq44G
รถประกัน
Bagikan Berita Ini
0 Response to "มิติใหม่แห่งวงการประกัน!! AIS จับมือ MSIG เปิดตัว “ประกันขับดี” ประกันภัยรถยนต์สุดล้ำที่ให้จ่ายเบี้ยเท่าที่ขับจริง – Flashfly Dot Net - Flashfly"
Post a Comment