ปี 2563 แบรนด์มาสด้าเดินทางในอุตสาหกรรมรถยนต์มาครบ 100 ปี แต่เป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 สำหรับประเทศไทยก็เช่นกัน
ปี 2563 นับเป็นอีกหนึ่งปีที่มาสด้าสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับตลาดรถยนต์ภายใต้การทำทุกอย่างแบบวิถีชีวิตใหม่ หรือนิวนอร์มอล เริ่มตั้งแต่การเปิดจอง-ขาย-เซอร์วิส แบบออนไลน์ การปลุกตลาดเอสยูวีอย่างเต็มรูปแบบด้วยการคลอดโปรดักต์ตระกูลซีเอ็กซ์ ซีรีส์ แบบรัว ๆ
รวมถึงการลงทุนขยายโชว์รูมและศูนย์บริการเดือนละ 1 แห่ง แบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ครั้นเริ่มศักราชใหม่ปี 2564 ยังไม่ทันข้ามเดือน มาสด้าประเดิมคลอดปิกอัพ บีที-50 ใหม่ จากความร่วมมือพันธมิตรเบอร์หนึ่งในตลาดปิกอัพอย่างอีซูซุ อวดโฉมโมเดลใหม่ด้วยการนำข้อดีของแต่ละยี่ห้อมารวมไว้ด้วยกัน
ส่วนระยะเวลาที่เหลืออีก 11 เดือนของปีนี้ มาสด้าจะมีอะไรมาสร้างความประหลาดใจให้กับลูกค้าเพิ่มเติม รวมถึงทิศทางการบุกตลาดในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังผงกหัวขึ้นจะเป็นอย่างไร ไปติดตามจากปาก “ชาญชัย ตระการอุดมสุข” ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย
โอดปี 2563 สาหัสสุด ๆ
ปีที่ผ่านมา มาสด้าย่างก้าวเข้าสู่ปีที่ 100 มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น เราพบกับอุปสรรคครั้งใหญ่จากการระบาดของโคโรน่าไวรัส อุตสาหกรรมทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบ หลายธุรกิจต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไป ทิ้งร่องรอยความบอบช้ำไว้มากมาย แต่ยังมีสิ่งดี ๆ ก่อเกิดเป็นโอกาสใหม่บนวิถีนิวนอร์มอล ต่อยอดจนกลายเป็นอาชีพใหม่ของหลาย ๆ คน
และปีนี้มาสด้าก้าวมาสู่ปีที่ 101 มาสด้าเชื่อว่าจะสามารถเดินหน้าไปอย่างแข็งแรง ปีที่ผ่านมามาสด้าถือเป็นปีที่ยากลำบาก ยอดขายต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก แต่มาสด้าไม่ได้ย่อท้อ เราปรับกลยุทธ์ด้านการขายการตลาด การดูแลลูกค้า ขายรถผ่านระบบออนไลน์ Sky Booking และเพิ่มศักยภาพในการดูแลลูกค้าและพันธมิตรให้ดียิ่งขึ้น แม้ยอดขายจะลดลงเหลือ 40,000 คัน แบ่งเป็น ขายรถยนต์นั่ง 25,000 คัน ซีเอ็กซ์-ซีรีส์ 12,000 คัน และรถปิกอัพ 3,000 คัน ทำให้ยอดขายรวมปี 2563 แค่ 40,000 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 5% ในขณะที่ตลาดรวมของประเทศอยู่ที่ประมาณการ 780,000 คัน แบ่งเป็นรถอเนกประสงค์ 140,000 คัน รถยนต์นั่ง 250,000 คัน และรถปิกอัพ 390,000 คัน คิดเป็นเกือบ 50% ของตลาด ดังนั้น ตลาดรถปิกอัพจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งกับมาสด้า แม้ยอดขายปีที่แล้วของมาสด้าจะลดลง แต่ความต้องการในการเข้ารับบริการของลูกค้าไม่ได้ลดลงตามไปด้วย
โหมเพิ่มเครือข่าย
วันที่เผชิญกับความท้าทาย มาสด้ายังมีพันธมิตรที่ร่วมกันก่อร่างสร้างธุรกิจให้เติบโต ด้วยการขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย 12 แห่ง ท่ามกลางวิกฤต เดินหน้าสร้างสายสัมพันธ์และยกระดับการบริการให้พร้อมอยู่เสมอ มาสด้าเป็นแบรนด์เดียวที่เปิดโชว์รูมมากที่สุด และนี่คือความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจร่วมกับมาสด้า เช่นเดียวกันในแง่ของโปรดักต์
มาสด้าเดินหน้ากระตุ้นตลาดด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และมอบแคมเปญพิเศษเพื่อช่วยให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น โดยเปิดตัวทั้งหมด 5 รุ่น ตั้งแต่ซีเอ็กซ์-30, เอ็มเอ็กซ์-5, การปรับลุก ซีเอ็กซ์-3, มาสด้า 100th Anniversary Edition ในรุ่นมาสด้า2, มาสด้า3 และซีเอ็กซ์-30 และคลอดซีเอ็กซ์-3 โมเดลเยียร์ 2021 ส่งผลให้มาสด้ากลายเป็นผู้ผลิตรถอเนกประสงค์ออกสู่ตลาดมากถึง 4 รุ่นและทุกรุ่นได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
ทวงคืนแชมป์ปิกอัพ
แน่นอนจากสัดส่วนการขายจะเห็นว่ารถปิกอัพมีความต้องการถึง 50% ของยอดขายรถในบ้านเรา ฉะนั้นตลาดนี้ย่อมเป็นตลาดที่มีความสำคัญกับมาสด้า ในประเทศไทย มาสด้าผลิตรถปิกอัพจำหน่ายทั้งหมด 3 รุ่น จากโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย มาสด้า ไฟเตอร์ คือรถรุ่นแรกที่ผลิตขึ้นในช่วงปี 1998 ถึงปี 2006 มียอดจำหน่ายสะสม 50,000 คัน รุ่นที่สอง มาสด้า บีที-50 ผลิตขึ้นในช่วงปี 2006 ถึงปี 2012 มียอดจำหน่ายสะสม 52,000 คัน และรุ่นที่สาม มาสด้า บีที-50 โปร ผลิตขึ้นในช่วงปี 2012 จนถึงปัจจุบัน มียอดจำหน่ายสะสม 120,000 คัน ซึ่งทุกรุ่นล้วนได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า ทำให้มีรถปิกอัพมาสด้าอยู่ในการครอบครองของลูกค้าชาวไทยมากกว่า 222,000 คัน นี่คือฐานลูกค้าที่สำคัญสำหรับเราในวันนี้ ล่าสุดการเปิดตัว มาสด้า บีที-50 ใหม่ ในวันนี้เป็นประเทศที่ 2 ต่อจากประเทศออสเตรเลีย และเป็นประเทศแรกที่เปิดตัวรุ่น Free Style Cap หรือประตูตู้กับข้าว เป็นครั้งแรกของโลกในประเทศไทย
อย่างที่บอกในตอนต้น ตลาดรถปิกอัพมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมีสัดส่วนเกือบ 50% ของอุตสาหกรรมในแต่ละปี ในขณะที่เรามีส่วนแบ่งไม่ถึง 1% และวันนี้ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป การเปิดตัวมาสด้า บีที-50 ใหม่ จะเป็นการกลับมาอีกครั้ง revolutionary change มาสด้าจะสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญให้ตลาดรถปิกอัพเมืองไทย เหมือนที่เคยทำสำเร็จมาแล้วกับยอดขาย 28,000 คันต่อปี
มั่นใจด้วยดีไซน์ที่แตกต่าง
ด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นด้วยสไตล์ที่แตกต่าง สง่างามทุกมุมมอง จากการออกแบบของโคโดะ ดีไซน์ ความพิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด คัดสรรด้วยวัสดุคุณภาพสูงให้ความสะดวกสบายสไตล์เอสยูวี เรามั่นใจอย่างยิ่งว่ารถปิกอัพรุ่นนี้จะกลับมาครองใจลูกค้ามาสด้าตลอดไป การใช้งานที่คล่องตัว ตอบโจทย์การใช้งานสไตล์รถปิกอัพ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าคนรุ่นใหม่ รวมถึงแฟนมาสด้ามากกว่า 2 แสนราย มาสด้า บีที-50 ใหม่ จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้พบเห็น ด้วยการผนวกคุณสมบัติที่ดีที่สุดของรถปิกอัพในเมืองไทย ด้วยจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมาสด้า ผสานกับจุดเด่นที่ดีที่สุดจากความร่วมมือกับพันธมิตร รถคันนี้จะเป็นรถปิกอัพที่มีดีไซน์สง่างามที่สุดในโลก เป็นรถปิกอัพที่ประหยัดน้ำมันมากที่สุดในโลก มีความทนทานมากที่สุดในโลก ค่าดูแลรักษาต่ำสุด นี่คือสิ่งที่ลูกค้าเฝ้ารอมานานที่สุดจากรถปิกอัพในยุคปัจจุบัน
วันนี้ทุกสิ่งที่ลูกค้าต้องการจากรถปิกอัพได้สิ้นสุดลงแล้ว เพราะมาสด้ามีให้ครบทุกอย่าง และเราคงต้องติดตามกันว่า มาสด้า บีที-50 ที่ “ชาญชัย” และ “มาสด้า” ว่าในที่สุดจะผลักดันให้มาสด้าเดินไปยังเป้าหมายได้หรือไม่
อ่านบทความและอื่น ๆ ( ชาญชัย ตระการอุดมสุข "มาสด้า" เติมเต็มทุกด้านของชีวิต - ประชาชาติธุรกิจ )https://ift.tt/2Myjluj
ขายรถ
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ชาญชัย ตระการอุดมสุข "มาสด้า" เติมเต็มทุกด้านของชีวิต - ประชาชาติธุรกิจ"
Post a Comment